เอเอฟพี - เจ้าฟ้าชายอากิชิโนแห่งญี่ปุ่นทรงพระดำริให้กำหนดอายุเกษียณสำหรับพระจักรพรรดิ หลังจากพระราชบิดาทรงพระประชวร และต้องประทับรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหลายวัน
เจ้าชายอากิชิโน พระราชโอรสองค์รองในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและจักรพรรดินีมิจิโกะ ทรงมีพระดำรัสพระราชทานต่อผู้สื่อข่าว ก่อนจะถึงวันคล้ายวันประสูติครบ 46 พรรษา
“ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็น” พระองค์ตรัสตอบ เมื่อผู้สื่อข่าวทูลถามเกี่ยวกับพระดำริที่ให้กำหนดอายุเกษียณสำหรับจักรพรรดิญี่ปุ่น
พระดำรัสของเจ้าชายอากิชิโนที่เผยแพร่ผ่านสื่อญี่ปุ่นในวันนี้ (30) มีขึ้น หลังจากที่พระจักรพรรดิซึ่งมีพระชนมายุ 77 พรรษา ทรงหายจากอาการประชวร และกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้อีกครั้ง
เจ้าชายตรัสว่า “คนเราเมื่อวัยล่วงเลยมาถึงระดับหนึ่ง ก็ยากที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่างได้ ข้าพเจ้าคิดว่านั่นคือประเด็นสำคัญ” ที่สมควรให้มีการกษียณอายุสำหรับพระมหากษัตริย์ และทรงแนะให้ทุกฝ่ายหารือเรื่องนี้โดยละเอียด
ไม่บ่อยนักที่พระบรมวงศานุวงศ์ญี่ปุ่นจะมีพระดำรัสต่อสาธารณชนในเรื่องการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับพระราชวงศ์เอง
อย่างไรก็ดี พระดำรัสของเจ้าชายอากิชิโนนับว่าประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังแสวงหาวิธีปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดำรงอยู่ได้ในโลกยุคใหม่
เจ้าชายฮิซาฮิโตะ โอรสของเจ้าชายอากิชิโนในวัย 5 ชันษา ทรงเป็นทายาทชายเพียงพระองค์เดียวที่ประสูติในราชวงศ์อิมพีเรียลในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งสร้างความหวั่นวิตกแก่กลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ยึดถือการสืบสันตติวงศ์ผ่านรัชทายาทที่เป็นชาย
หลังจากสถานะเทวราชาของจักรพรรดิสูญสิ้นไปพร้อมกับสงครามโลกครั้งที่ 2 จักรพรรดิญี่ปุ่นจึงทรงมีบทบาทแต่ในเชิงพิธีการในฐานะที่ทรงเป็นประมุขรัฐ แม้กระนั้นชาวญี่ปุ่นก็ยังถวายความเคารพต่อสถาบันพระจักรพรรดิอย่างลึกซึ้งเสมอมา
เดือนที่แล้ว จักรพรรดินีมิจิโกะทรงแสดงความกังวลเกี่ยวกับพระพลานามัยของพระจักรพรรดิ แต่ก็ตรัสด้วยว่า ทรงยืนเคียงข้างพระราชสวามีระหว่างที่คณะแพทย์ถวายคำแนะนำ
จักรพรรดิอากิฮิโตะทรงรับการผ่าตัดมะเร็งพระอัณฑะ เมื่อปี 2003 และปัจจุบันก็ยังทรงรับการรักษาอยู่เป็นระยะ
พระองค์มิได้เสด็จฯออกในพิธีต้อนรับกษัตริย์และราชินีแห่งภูฏานเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ไม่ทรงร่วมงานเลี้ยงต้อนรับแขกของรัฐบาล นับตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ต่อจากจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ เมื่อปี 1989