เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ โยนบาปให้กรุงปักกิ่งเป็นต้นเหตุของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในแดนอินทรี สื่อรัฐบาลจีนรายงาน หลังจาก โอบามา วิจารณ์นโยบายคุมค่าเงินหยวนอย่างแข็งกร้าว
ปมขัดแย้งเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อ โอบามา กล่าวในที่ประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) เมื่อวันอาทิตย์(13)ว่า แม้กรุงปักกิ่งจะยอมผ่อนคลายค่าเงินหยวน แต่ยังไม่ถึงระดับที่เป็นธรรม ดังนั้นจีนซึ่งเป็นชาติที่ “โตแล้ว” ควรแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้
สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า โอบามากำลังหยิบยกประเด็นค่าเงินหยวนมาเป็นเครื่องมือหาเสียง และการบีบให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจะส่งผลให้บริษัทจีนต้องล้มละลาย โดยที่ไม่อาจแก้ปัญหาขาดดุลการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯได้
“การกดดันจีนโดยเฉพาะเรื่องค่าเงินหยวน เป็นลูกไม้เก่าๆก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ” ซินหัว เผยในบทวิจารณ์ เมื่อบ่ายวานนี้(14)
“กลยุทธ์โยนบาปให้ผู้อื่นอาจจะเรียกคะแนนนิยมได้ก็จริง แต่ไม่ใช่ทางออกสำหรับปัญหาเศรษฐกิจของอเมริกาแน่นอน”
“สหรัฐฯควรจัดการปัญหาภายในบ้านตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะมาประณามผู้อื่น” ซินหัว ระบุ พร้อมตำหนินักการเมืองสหรัฐฯที่ให้ความสำคัญกับการหาเสียงมากกว่า “ปัญหาร้ายแรงภายในประเทศ” เช่น การใช้จ่ายเกินตัว และอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น
สหรัฐฯกล่าวหามาโดยตลอดว่ารัฐบาลจีนกดค่าเงินหยวนให้ต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อให้สินค้าจีนมีราคาถูกกว่าคู่แข่ง และส่งผลให้สหรัฐฯขาดดุลการค้ากับจีนสูงถึง 270,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2010
โอบามา กล่าวระหว่างการประชุมเอเปกที่เมืองโฮโนลูลู ว่า แม้ค่าเงินหยวนจะ “มีพัฒนาการขึ้นเล็กน้อย” ในปีที่แล้ว ทว่าก็ยังไม่เพียงพอ และขอร้องให้กรุงปักกิ่งแสดงความรับผิดชอบเพื่อแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางการค้า
“จีนเป็นชาติที่โตแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะต้องจัดการกระบวนการนี้อย่างรับผิดชอบ” โอบามา กล่าว
ด้านจีนก็ออกมาปกป้องนโยบายการเงินของตนอย่างเต็มที่ โดยระบุว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ค่าเงินหยวนยืดหยุ่นมากขึ้น
หนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อแนวชาตินิยมของจีน กล่าวในบทบรรณาธิการวันนี้(15)ว่า สหรัฐฯรู้สึก “ไม่ปลอดภัย” เพราะจีนมีอิทธิพลเพิ่มขึ้น และกรุงวอชิงตันควรยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจอเมริกาอยู่ในช่วงขาลงแล้ว
“สหรัฐฯต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยใช้การเมืองมากดดันจีน การทำเช่นนี้ย่อมไม่มีประโยชน์ และจะล้มเหลวอย่างแน่นอน” โกลบอล ไทม์ส เผย พร้อมชี้ว่า สหรัฐฯมั่นใจในตนเองเกินไป
“บางทีสหรัฐฯอาจต้องยอมรับความจริงว่า โลกนี้มีหลายขั้ว และควรเปลี่ยนแนวคิดของตนเสียใหม่”