เอเจนซี - ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(7)ทรงตัวท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ปัญหาหนี้ยุโรปยังเป็นความกังวลหลักของนักลงทุน แต่ราคาน้ำมันขยับขึ้นสวนทาง หลังพบข้อมูลสต๊อกเชื้อเพลิงอเมริกาลดลงจากปีที่แล้วอย่างมาก
นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี แห่งอิตาลี ยืนหยัดแข็งข้อต่อแรงกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งขณะที่เขาพยายามรักษาเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลกลางขวา ก่อนหน้านี้ลงมติครั้งสำคัญต่อแผนปฏิรูปงบประมาณท่ามกลางการประท้วงของประชาชนที่ไม่พอใจต่อการรับมือกับปัญหาทางเศรษฐกิจของรัฐบาล
ตราสารหนี้รัฐบาลอิตาลีถีบตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1997 แตะระดับที่ถูกมองว่าไม่มั่นคง ขณะที่ความยุ่งเหยิงทางการเมืองในโรมกำลังลากชาติเศรษฐกิจอันดับ 3 ของยุโรปเข้าสู่วิกฤตหนี้สินที่ลุกลามในยูโรโซน
ตลาดยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากความไม่แน่นอนในกรีซ ที่เวลานี้นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งและแกนนำฝ่ายค้านกำลังเร่งมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อตอบรับข้อตกลงอีดฉีดรอบใหม่่จากอียู
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.97 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,985.21 แนสแดค ลดลง 6.55 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,669.60 เอสแอนด์พี ลดลง 0.13 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,253.10
ด้านราคาน้ำมันวานนี้(7)แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม เหตุนักลงทุนให้ความสำคัญกับข้อมูลทางพลังงานของอเมริกา และบางส่วนก็หวังว่ายุโรปจะคลี่คลายวิกฤตหนี้ได้
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่่ 95.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รัฐบาลสหรัฐฯเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 62.6 และอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 5 ปีที่ผ่านมาร้อยละ 5.6