เครื่องบินแควนตัสคืนสู่ท้องฟ้าหลังหลังบีบรบ.แทรกแซงสำเร็จ

เอเจนซี - สายการบินแควนตัสของออสเตรเลียกลับสู่ท้องฟ้าอีกครั้งในวันจันทร์(31) หลังยกเลิกเที่ยวบินทุกเที่ยวเมื่อสุดสัดาห์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้พนักงานที่ผละงานประท้วงและกดดันรัฐบาลให้เข้ามาแทรกแซงข้อพิพาททางแรงงานครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศในรอบทศวรรษ

แควนตัสใช้มาตรการแข็งกร้าวด้วยการงดเที่ยวบินทุกเที่ยวเมื่อวันเสาร์(29) ก่อความโกลาหลแก่ผู้โดยสารกว่า 70,000 คนและกระตุ้นให้รัฐบาลและผู้ดูแลตลาดแรงงานพยายามหาทางคลี่คลายข้อขัดแย้งระหว่างสายการบินและสหภาพแรงงานโดยเร็วที่สุด

ศาลแรงงานของออสเตรเลียซึ่งตั้งโดยรัฐบาล มีคำสั่งให้แควนตัสกลับมาบินอีกครั้งและห้ามสหภาพผละงานประท้วงอีกระหว่างการเจรจาหาทางออก "นี่คือทางเดียวที่เรื่องนี้จะเดินหน้าไปได้" อลัน จอยซ์ ซีอีโอของแควนตัสกล่าว บอกกับผู้สื่อข่าว จากนั้นหลังได้รับไฟเขียวจากเจ้าหน้าที่การบินแอร์บัสก็ส่งแอร์บัสเอ330 ลำหนึ่งจากซิดนีย์สู่จาการ์ตาคืนสู่ท้องฟ้า

สนามบินต่างๆทั้งในออสเตรเลียและต่างประเทศ ห้องรับรองผู้โดยสารขาออกเต็มไปด้วยผู้โดยสารของแควนตัสที่กำลังเฝ้ารอการเดินทางอย่างใจจดใจจ่อหลังต้องติดค้างมาตั้งแต่ชวงสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตามทางแควนตัส คาดหมายว่าคงต้องใช้เวลาจนถึงวันพุธ(2) ถึงสามารถกลับมาปฏิบัติการได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

สำนักข่าวเซเวน เนตเวิร์ค ของออสเตรเลีย รายงานว่ามีผู้โดยสารของแควนตัสกว่า 2,000 คน ที่ตกค้าง ณ สนามบินฮีทโธรว์ของลอนดอนและอื่นๆทั่วยุโรป นอกจากนี้ภาพเหตุการณ์โกลาหลก็พบเห็นที่สนามบินสิงคโปร์เช่นกัน

ศาลแรงงานพิพากษาเมื่อเช้าวันจันทร์(31)ว่าให้เวลาทั้งสองฝ่าย 21 วันสำหรับคลี่คลายข้อขัดแย้งหรือยื่นเรื่องให้อนุญาโตตุลาการตัดสิน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายมองว่ากระบวนการนี้ดูเหมือนจะเป็นไปตามความต้องการแควนตัสในการต่อสู้กับสหภาพแรงงานในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มฐานปฏิบัติการในเอเชีย

อนึ่ง กลยุทธ์ของจอยซ์ที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเรียกขานว่า ‘คามิกาเซ่’ ในการสไตร๊ก์กลับตอบโต้สหภาพแรงงานนั้น ถูกวิจารณ์หนักจากรัฐบาลออสเตรเลีย รวมทั้งบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 2 แห่งคือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ที่เตือนว่าอาจลดอันดับแควนตัสจากการตัดสินใจหยุดให้บริการที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อแบรนด์

ทว่า ในทางกลับกัน ราคาหุ้นแควนตัสในวันจันทร์กลับทะยานขึ้นถึง 7.4% ซึ่งเท่ากับเป็นการชูมือให้จอยซ์และแควนตัสเป็นฝ่ายชนะ

แควนตัสเผยว่า ขาดทุนราว 70 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียนับจากเดือนกันยายนจากกรณีพิพาทกับสหภาพแรงงาน 3 แห่งในเรื่องค่าแรง เงื่อนไขการทำงาน และแผนการขยายตัวในเอเชีย

แม้ราคาหุ้นของสายการบินที่มีอายุอานามถึง 90 ปีแห่งนี้กำลังดีดกลับ แต่ตลอดทั้งปีนี้หุ้นตัวนี้ก็มีมูลค่าลดลงกว่า 1 ใน 3 นอกจากนั้นนักลงทุนยังอาจหวนกลับมามีกังวลกับความเสียหายระยะยาวต่อแบรนด์แควนตัสจากการหยุดให้บริการ ซึ่งส่งผลต่อแผนการเดินทางของผู้นำจากบางประเทศที่เข้าร่วมประชุมสุดยอดประเทศเครือจักรภพที่เมืองเพิร์ธ รวมทั้งสร้างความเดือดดาลแก่ผู้โดยสารจำนวนมาก และหลายคนออกปากว่าจะเลิกใช้บริการแควนตัส

การหยุดบินยังโหมกระพือการคาดการณ์ว่าแควนตัสอาจตกเป็นเป้าหมายการผนวกกิจการอีกครั้ง หลังจากมีข่าวลือทำนองนี้ออกมาเป็นระยะ และแม้ว่ากฎหมายออสเตรเลียจะจำกัดการถือครองหุ้นของต่างชาติในแควนตัสไว้ที่ 49% ก็ตาม

ด้านรัฐบาลกล่าวว่าคำตัดสินของศาลแรงงานช่วยปกป้องอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด วิจารณ์ว่าการหยุดบินเป็นมาตรการสุดโต่ง และแสดงความไม่พอใจที่จอยซ์แจ้งรัฐบาลล่วงหน้าเพียง 3 ชั่วโมงก่อนหยุดบิน

ทั้งนี้ ข้อพิพาทของแควนตัสยืดเยื้อมาหลายเดือน แต่คุกรุ่นขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้เมื่อสายการบินประกาศแผนปลดพนักงาน 1,000 คน และสั่งซื้อเครื่องบินใหม่เป็นมูลค่า 9,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพลิกโฉมเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ขาดทุน

ทางฝ่ายตัวแทนสหภาพฯ ยืนยันว่าจะร่วมกับแควนตัสเพื่อกลับมาให้บริการตามปกติโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ดี ริชาร์ด วูดวาร์ด รองประธานสมาคมนักบินออสเตรเลียและนักบินระหว่างประเทศ เรียกร้องให้สายการบินปลดซีอีโอบ้าบิ่นออกโดยเร็ว