xs
xsm
sm
md
lg

เจแปนไทม์สชี้ รบ.ไทย-ญี่ปุ่น ล้วนรับมือภัยพิบัติ “ชุ่ย” ไม่สนคำเตือนนักวิชาการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
เจแปนไทม์ส/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เฉกเช่นภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิในญี่ปุ่น วิกฤตอุทกภัยไทยจะส่งผลสะเทือนต่ออุปทานและราคาของข้าว กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ รวมทั้งรถยนต์ ในระดับโลก หนังสือพิมพ์เจแปนไทม์สรายงานวันนี้ (31)

แต่คนจำนวนมากกลับตั้งคำถามว่า ใครคือผู้บริหารจัดการภัยพิบัติครั้งนี้กันแน่ ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ผู้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ทั้งที่ไร้ประสบการณ์ด้านการเมือง หรือการจัดการภัยพิบัติ

ในฐานะประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่ง ไทยสูญเสียผลผลิตข้าวไปแล้ว 1 ไตรมาสในปีนี้ บริษัทต่างชาติ เช่น ฟอร์ด ฮอนด้า โตโยต้า นิคอน และ เวสเทิร์น ดิจิตัล ล้วนประสบภาวะชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่มวลน้ำยังคงท่วมนิคมอุตสหากรรม ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่หลายพันโรง

ท่ามกลางวิกฤตภัยพิบัติ ประชาชนทั่วเอเชียต่างเบื่อหน่ายกับสภาวะอัมพาตในประเทศของตนมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ภัยสึนามิ วันที่ 11 มีนาคม พรรคเดโมเครติก ปาร์ตี แกนนำรัฐบาลญี่ปุ่น ต้องดิ้นรนผลักดันนโยบาย โดยมีแรงต้านจากข้าราชการที่ยังภักดีต่อพรรคลิเบรัล เดโมเครติก ปาร์ตี (แอลดีพี) ซึ่งเป็นรัฐบาลมายาวนานเกือบ 54 ปี ต่อมา ด้วยข้อครหาการรับมือวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะที่ผิดพลาด นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง จำต้องประกาศลาออก หลังคะแนนนิยมตกต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์

ส่วนคะแนนนิยมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ตกต่ำเช่นกัน ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทยมาจากชาวนาและชนชั้นรากหญ้าผู้ยากจน ท่ามกลางตัวเลือกที่น่าหนักอก รัฐบาลยิ่งลักษณ์เลือกสละพื้นที่ชนบท และปริมณฑลทางเหนือของกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันพื้นที่ชั้นใน แม้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะออกโทรทัศน์เรียกร้องการปรองดอง แต่ก็ยังถูกถางถางที่เคยรับประกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่า กรุงเทพฯ ไม่ท่วมแน่นอน หรือการสวมรองเท้าบูตเบอร์เบอร์รีราคาแสนแพงลุยน้ำท่วมย่านคนยากจน

ทักษิณเป็นผู้สั่งการทีมทำงานแก้วิกฤตน้ำท่วมตัวจริง จากนครดูไบ ที่อยู่ห่างออกไป 5,000 กิโลเมตร เสียงวิจารณ์อีกมากยังกล่าวโทษทักษิณ ว่า เป็นต้นเหตุของน้ำท่วมใหญ่ โดยทักษิณได้ประโยชน์จากการสร้างเขื่อน การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การสร้างนิคมอุตสาหกรรม และการตั้งหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่การเกษตรที่ควรเป็นแก้มลิงรองรับมวลน้ำฝน หนังสือพิมพ์เจแปนไทม์ส รายงานอ้างถึงสื่อไทย

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เคยกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีหญิงมือใหม่คนนี้ ว่า มัวแต่สนใจกับการปูทางพาทักษิณกลับบ้าน จนเพิกเฉยต่อคำเตือนของนักวิชาการ กรณีปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าปกติราว 25 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลไม่ใส่ใจที่จะปล่อยน้ำจากเขื่อนที่มีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมากตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังจากนั้น ทางการยังขาดการจัดการระบบการระบายน้ำที่ดี มิหนำซ้ำ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนอื่นๆ ยังออกมาส่งสัญญาณผิดๆ หรือปิดบังข้อมูลที่ประชาชนควรรู้

ขณะที่นักการเมืองมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เหล่าข้าราชการ ผู้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ต้องเป็นผู้บริหารจัดการอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ หรือล้มเหลวของรัฐบาล นักการเมืองญี่ปุ่นพยายามรักษาหน้า ข้าราชการจังหวัดอิวาเตะ หนึ่งในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ ขัดขวางไม่ให้แพทย์ หรืออาสาสมัครเข้าพื้นที่ หากไม่มีคำสั่งจากเบื้องบน ท่ามกลางความกังวลเรื่องอาหารปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น เคยแถลงข่าวว่า ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการปนเปื้อน เพราะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน แต่ไม่นานหลังคำแถลงรับประกัน ก็มีการตรวจเจออาหารปนกัมมันตภาพรังสี และพบจุดเปื้อนกัมมันตภาพรังสีมากกว่า 20 จุด ทั่วญี่ปุ่น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะนักแผ่นดินไหววิทยา ต่างไม่พอใจรัฐบาลที่เพิกเฉยต่อคำเตือนถึงประวัติศาสตร์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ บริเวณชายฝั่งจังหวัดฟูกูชิมะและพื้นที่ใกล้เคียง เช่นเดียวกับประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญจากกรมชลประทานก็รู้สึกไม่ต่างกับผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่น หลังจากเคยเตือนนักลงทุนถึงภัยในการก่อสวนอุตสาหกรรมในพื้นที่น้ำท่วมถึง

การชักเย่อระหว่างนักการเมือง กับข้าราชการ ทำให้ทหาร-ตำรวจ ต้องมาแบกปัญหาหนักไว้ทั้งหมด ช่วงเกิดภัยสึนามิ ทหารญี่ปุ่นสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบภัยจากอาคารต่างๆ ไว้หลายพันชีวิต ขณะที่ โยชิฮิโระ มูราอิ ผู้ว่าราชการจังหวัดมิยางิ ได้รับเสียงชื่นชมจากคนทั้งญี่ปุ่น ประเทศที่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี 6 คน ในรอบ 5 ปี

ส่วนทหารไทยก็ได้รับการเสียงขอบคุณจากประชาชนที่ทุ่มเทสร้างพนังกั้นน้ำ เติมกระสอบทราย และช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถ แม้มีเสียงนกเสียงกาป่าวร้องให้ระวังการรัฐประหาร

อีกด้านหนึ่ง ประชาชนก็ร่วมด้วยช่วยกันกับกลุ่มอาสาต่างๆ โดยไม่อาศัยความช่วยเหลือจากทางการ โลกแห่งการสื่อสารสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที โดยไม่มัวรีรอความเมตตาจากรัฐบาลที่บริหารงานผิดพลาด
กำลังโหลดความคิดเห็น