ASTVผู้จัดการ - เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เจแปนไทมส์ของญี่ปุ่น โพสต์บทบรรณาธิการ ในหัวข้อ “ประเทศไทยประสบปัญหา” (Thailand in trouble) วันนี้ (28) โดยระบุถึงวิกฤตน้ำท่วมของไทย ซึ่งสงผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมของแดนปลาดิบมากมาย พร้อมทั้งชี้ให้รัฐบาล องค์กรต่างๆ และภาคประชาชนของญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือแก่ไทยด้วย
บทความดังกล่าวระบุว่า อุทกภัยในประเทศไทย ซึ่งเบื้องต้นได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือ และตอนกลางของประเทศ กำลังไหลบ่าเข้าสู่กรุงเทพฯ ที่มีหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งมุ่งให้ความใส่ใจ โดยยังได้รายงานสรุปสาระสำคัญของสถานการณ์น้ำท่วมเป็นลำดับตามวันที่
เจแปนไทมส์ รายงานว่า ในวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา สายการบินภายในประเทศ 2 สายการบินยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดทั้งขาเข้า-ขาออกจากสนามบินดอนเมือง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ โดยจนถึงวันที่ 26 ตุลาคม มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมแล้ว 373 ราย ส่วนใหญ่จมน้ำ และอีกไม่ต่ำกว่า 17 คนที่ถูกไฟฟ้าดูด ขณะที่ประชาชนร่วม 2.93 คนกลายเป็นเหยื่ออุทกภัย
ต่อมา นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ประกาศว่า สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตหนัก เมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ โดยน้ำทะเลจะหนุนสูงในวันที่ 28 ตุลาคม ซึ่งทำให้ยากที่จะผันน้ำออกสู่ทะเล ขณะที่พยากรณ์อากาศก็คาดว่าฝนจะตกหนักลงมาอีก ดังนั้นความเสียหายจากน้ำท่วมจึงน่าจะขยายวงกว้างออกไป
หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่น สภากาชาดญี่ปุ่น องค์กรอื่นๆ รวมถึงประชาชนชาวญี่ปุ่นควรพิจารณาว่าพวกเขาจะให้ความช่วยเหลืออะไรแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมไทยได้บ้าง
สำหรับสาเหตุของน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ไทมส์ญี่ปุ่นชี้ว่า มาจากฝนตกหนักในฤดูมรสุมตลอด 3 เดือน ซึ่งน่าจะหนักหนาสาหัสที่สุดในรอบ 50 ปี รวมถึงสภาวะโลกร้อนก็อาจมีส่วน แต่ปัจจัยที่ส่งเสริมให้หายนะภัยครั้งนี้รุนแรงขึ้น คือ มนุษย์ ด้วยความพยายามในการชักชวนบริษัทต่างชาติเข้าประเทศ ไทยต้องถมคลอง หนอง บึงไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา และสร้างนิคมอุตสาหกรรม
การปรับให้เป็นอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนเป็นสังคมเมือง ที่รวดเร็วเหล่านั้นได้ทำลายพื้นที่รองรับน้ำตามธรรมชาติไปอย่างมหาศาล ซึ่งในจังหวัดอยุธยา ที่เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา นิคมอุตสาหกรรมทั้ง 5 แห่งก็จมบาดาลไปหมดแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น บทบรรณาธิการนี้ยังกล่าวถึงความขัดแย้งทางการเมือง ที่ปรากฏชัดเจน ระหว่างฝ่ายสนับสนุน และต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯ คนปัจจุบัน ว่าเป็นอุปสรรคของความร่วมมือในการควบคุมสถานการณ์น้ำท่วมอย่างยิ่ง
ส่วนผลกระทบจากอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีนั้น มีการประเมินว่าจะทำให้การผลิตข้าวของไทยลดลง 30% ในปีนี้ ขณะที่นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งจมน้ำ บริษัทญี่ปุ่นกว่า 460 แห่งก็ได้รับความเสียหาย ในจำนวนนั้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์แดนซามูไร 8 ราย โดยต้องระงับการผลิตไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งประสบปัญหาหลังมหาภัยแผ่นดินไหว และสึนามิในประเทศไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งห่วงโซ่อุปทานได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ท้ายที่สุด เจแปนไทมส์ ยังได้เร่งเร้าให้รัฐบาลญี่ปุ่นดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่เหยื่อน้ำท่วมของไทย ซึ่งรวมถึงพลเมืองชาวญี่ปุ่น ในทันที พร้อมทั้งย้ำให้รัฐบาลญี่ปุ่นแนะนำเทคโนโลยี และความรู้ในการรับมือกับภัยน้ำท่วมแก่ประเทศไทยด้วย