เอเอฟพี - ทางการเกาหลีเหนือปฏิเสธคนงานชาวโสมแดง 200 คน ไม่ให้เดินทางกลับจากลิเบีย เนื่องจากกังวลว่า กลุ่มคนที่รับรู้เรื่องการปฏิวัติอาหรับสปริงจะแพร่งพรายชะตากรรมของพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี แก่ชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากที่กำลังถูกปิดกั้นข่าวสารจากโลกภายนอก ลีออน พาเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยในวันนี้ (27)
พาเนตตาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทราบข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโกมเกาหลีใต้ ระหว่างการเยือนกรุงโซล
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ระบอบคิมจองอิลเชื่อว่าหากคนงานเหล่านี้ได้กลับเข้าเกาหลีเหนือ “เรื่องเล่าถึงชะตากรรมของกัดดาฟี และข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกอาหรับอาจได้รับการแพร่งพรายสู่ประชาชนเกาหลีเหนือ นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างพฤติกรรมที่สุดโต่งของเกาหลีเหนือ”
ด้านสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ก็ได้รับรายงานในลักษณะเดียวกันนี้จากกรุงตริโปลี เมื่อวันพุธ (26) หลังจากมูอัมมาร์ กัดดาฟี ถูกสังหารอย่างไร้ความปราณีช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยอนฮับรายงานว่า แพทย์ พยาบาล และคนงานก่อสร้างชาวโสมแดง ถูกส่งไปยังลิเบียเพื่อหาเงินตราสกุลแข็ง ส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือ ประเทศที่แสนยากจน โดยแหล่งข่าวของสำนักข่าวยอนฮับยังเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในลิเบีย อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าประเทศเช่นกัน
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ลี้ภัยชาวโสมแดงและกลุ่มนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ได้ปล่อยใบปลิวข่าวอาหรับสปริงให้ลอยข้ามไปยังเกาหลีเหนือพร้อมกับลูกโป่ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนโสมแดงลุกฮือขึ้นโค่นล้มคิมจองอิล
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้อธิบายว่า โอกาสที่จะเกิดการลุกฮือปฏิวัติแบบอาหรับสปริงในเกาหลีเหนือเป็นไปได้ยาก เนื่องจากรัฐบาลปิดกั้นข้อมูลข่าวสารจากภายนอกไม่ให้ประชาชนรับรู้