xs
xsm
sm
md
lg

สายลับ US ให้การคดี “วิคเตอร์ บูท” ชี้เจรจาค้าอาวุธที่ “กทม.” เป็นไม้เด็ดเอาผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิคเตอร์ บูท เจ้าของฉายา “พ่อค้าความตาย” ระหว่างการถูกกักขังในประเทศไทย
เอเอฟพี - สายลับสหรัฐฯ ให้การต่อศาลนิวยอร์ก เมื่อวันพุธ (19) ว่า เขาปลอมตัวเป็นคนของ “ฟาร์ก” กลุ่มกบฏโคลอมเบีย เพื่อเจรจาล่อซื้ออาวุธจากวิคเตอร์ บูท เจ้าของฉายา “พ่อค้าความตาย” ที่โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ พร้อมทั้งยืนยันว่า ผู้ต้องหาเป็นคนเปิดเผยรายการอาวุธสงครามจำนวนมากด้วยตัวเอง

รายการอาวุธที่เขียนด้วยลายมือของบูทเป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงต่อหน้าศาล หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประสานงานกับตำรวจไทยบุกจับกุมผู้ต้องหาตามแผนล่อซื้อ เมื่อปี 2008

บันทึกคำให้การระบุชื่อสายลับสหรัฐฯ คนนี้ว่า “การ์ลอส” โดยเขาได้อธิบายต่อคณะลูกขุนถึงวิธีการลอบบันทึกการเจรจาลับในห้องประชุมชั้น 27 ของโรงแรมโซฟิเทล

ระหว่างการเจรจา การ์ลอส และ “ริการ์โด” สายลับอีกคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นหัวหน้านักรบกองกำลังปฏิวัติติดอาวุธโคลอมเบีย (ฟาร์ก) บอกกับวิคเตอร์ บูท ว่า ต้องการอาวุธ โดยเฉพาะมิสไซล์ต่อสู้อากาศยาน เพื่อโจมตีเฮลิคอปเตอร์สหรัฐฯ ที่คอยให้การช่วยเหลือรัฐบาลโคลอมเบีย

บันทักเสียงการเจรจาลับถูกเปิดขึ้นในศาล โดยมีข้อความบางส่วนที่วิคเตอร์ บูท กล่าวสนับสนุนกลุ่มนักรบกบฏฝ่ายซ้ายของฟาร์ก และแสดงออกถึงความเกลียดชังกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งสายลับทั้งสองเรียกแทนว่า “คนต่างด้าว”

“เราอยู่ข้างเดียวกัน” เสียงของบูทพูดในเทปดักฟัง “และแน่นอน เรามีศัตรู (สหรัฐฯ) เดียวกัน”

ด้าน วิคเตอร์ บูท ให้การปฏิเสธข้อหาค้าอาวุธสงคราม โดยทนายของเขาระบุว่า บูทเคยพบกับสายลับสหรัฐฯ ที่ปลอมตัวเป็นกบฏฟาร์ก “เพียงครั้งเดียว” เพื่อขายเครื่องบินขนส่งสินค้า ส่วนการกล่าวถึงอาวุธอื่นๆ ระหว่างเจรจานั่น บูทเพียงต้องการพูดจาหว่านล้อมเอาอกเอาใจลูกค้า
วิคเตอร์ บูท ถูกควบคุมตัวโดยสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (ดีอีเอ) ระหว่างการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
การเจรจาลับที่โรงแรมโซฟิเทลเป็นแผนการสำคัญที่ทำให้ “ตำรวจไทย” กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สามารถจับกุมบูท หลังจากสหรัฐฯ ต้องวางแผนสลับซับซ้อน พัวพันไปถึงหลายๆ ประเทศ เพื่อล่อให้วิคเตอร์ บูท เดินมาติดกับดัก จนเขาถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนจากไทยไปยังสหรัฐฯ เมื่อปี 2010

คณะอัยการสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่า คำให้การของการ์ลอสและริการ์โด รวมทั้งแอนดรูว์ สมูเลียน อดีตสหายคนสนิทของบูท จะสามารถเอาผิดกับเจ้าของฉายาพ่อค้าความตายผู้นี้ได้

รายการอาวุธที่วิคเตอร์ บูท เขียนเองกับมือด้วยภาษารัสเซียและสเปนเป็นหลักฐานชิ้นเอก ขณะที่เขาสัญญว่า จะจัดหาอาวุธให้กลุ่มกบฏฟาร์กใช้ตอบโต้สหรัฐฯ

อาวุธที่บูทกล่าวอ้างถึงประกอบด้วย อาวุธสงครามตั้งแต่ลูกกระสุนปืนใหญ่ 122 มม. ไปจนถึงระเบิดพลาสติก ปืนไรเฟิลจู่โจม และกระสุนสำหรับปืนกล 7.62 มม. จำนวน 10 ล้านนัด โดยอาวุธร้ายแรงที่สุดในรายการของบูท คือ “อิกลา” (Igla) เครื่องยิงมิสไซล์ต่อสู้อากาศยานชนิดประทับบ่าของรัฐเซีย

“ผมต้องการ ... อาวุธต่อสู้อากาศยาน แต่ที่สำคัญมันต้องพกพาได้” เสียงของริการ์โด ผู้ปลอมตัวเป็นหัวหน้านักรบฟาร์ก พูดขึ้นในเทปที่การ์ลอสแอบติดเครื่องดักฟังไว้ใต้โต๊ะประชุม

“แน่นอนครับ” บูทตอบ “นั่นคือเหตุผลที่เรากำลังพูดถึง อิกลา”

นอกจากนี้ คณะอัยการยังเปิดเผยว่า แต่เดิมการ์ลอสเป็นทหารกัวเตมาลา ก่อนกลายเป็นพ่อค้ายาเสพติด และท้ายที่สุดยอมรับบทสายลับให้ทางการสหรัฐฯ ยิ่งไปกว่านั้น มีการเปิดเผยว่า การ์ลอสได้รับเงินจำนวน 7.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 230 ล้านบาท) จากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และอีก 1.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50 ล้านบาท) จากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ ในการจับกุมวิคเตอร์ บูท

ส่วน แอนดรูว์ สมูเลียน อดีตสหายสนิทของบูท กลายเป็นพยานปากเอกอีกคนหนึ่ง หลังจากยอมรับสารภาพ และให้ความร่วมมือกับคณะอัยการเป็นอย่างดี โดยหวังจะได้รับการลดหย่อนโทษ

ศาลนิวยอร์กนัดหมายการพิจารณาคดีอีกครั้งในวันจัทนร์ (24) หน้า ซึ่งจะเริ่มการซักฟอกการ์ลอส

อนึ่ง วิคเตอร์ บูท ถูกกล่าวหาว่า สมคบคิดให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และมีเจตนาสังหารคนอเมริกัน ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต
กำลังโหลดความคิดเห็น