ลือจะขยายกองทุนยูโรโซนครั้งใหญ่ ด้านมูดี้ส์หั่นเรตติ้งสเปนแจงหนี้ท่วม

เอเจนซีส์ - หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน ของอังกฤษ รายงานฝรั่งเศสและเยอรมนีตกลงกันได้แล้วว่าจะอัดฉีดกองทุนฟื้นฟูยูโรโซนเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านยูโร ขณะที่นายกฯแมร์เคิลของเยอรมนีเตือนเหมือนเดิมว่า ซัมมิตอียูไม่ใช่ขั้นตอนเดียวจบที่จะสามารถแก้วิกฤตได้เบ็ดเสร็จ นอกจากนี้ยังมีข่าวร้ายจาก “มูดี้ส์” ที่ประกาศหั่นเรตติ้ง “สเปน” 2 ขั้นรวด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเงินยูโรในวันอังคาร(18) ชวนกันทะยานขึ้น แม้ยังเป็นที่สงสัยข้องใจกันว่ามีข้อตกลงตามที่เป็นข่าวจริงหรือ นอกจากนั้น แหล่งข่าวอาวุโสของสหภาพยุโรป(อียู) 2 คนยังยืนยันกับรอยเตอร์ว่ายังไม่มีประเด็นนี้ในการหารือแต่อย่างใด

เรื่องมาจากหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียนของอังกฤษ ฉบับวันอังคาร (18) ที่รายงานโดยอ้างนักการทูตอาวุโสของสหภาพยุโรป (อียู) ว่ายูโรโซนจะรับรองแผนขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (อีเอสฟเอสเอฟ) จาก 440,000 ล้านยูโร เป็น 2 ล้านล้านยูโรโดยประมาณ เพื่อช่วยรัฐบาลหรือธนาคารที่มีปัญหาให้อยู่รอดได้ กรณีที่กรีซหรือประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนผิดนัดชำระหนี้

เดอะ การ์เดียนรายงานเพิ่มเติมว่า ความเชื่อมั่นว่าจะมีการอนุมัติแผนการดังกล่าวในการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) วันอาทิตย์นี้ (23) เพิ่มมากขึ้นหลังจากมูดี้ส์ออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์ (17) ว่า อาจทบทวนเพื่อปรับลดความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสที่ขณะนี้อยู่ระดับสูงสุดที่ AAA เนื่องจากต้นทุนการอุ้มแบงก์หรือสมาชิกอื่นๆ ในยูโรโซน

ที่ผ่านมา ตลาดปั่นป่วนวุ่นวายเพราะกลัวว่าผู้นำยุโรปจะไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนการแก้วิกฤต ที่ขณะนี้บีบให้กรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกสต้องขอรับความช่วยเหลือ และดันให้ต้นทุนการกู้ยืมในอิตาลีและสเปนพุ่งพรวด

นอกจากนั้น ในวันเดียวกันมูดี้ส์ยังประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้รัฐบาลสเปนลง 2 ขั้น จาก A1 เป็น Aa2 เนื่องจากมีหนี้ระดับสูงทั้งในภาคการธนาคารและธุรกิจ ส่งผลให้รัฐบาลอยู่ภายใต้ความกดดันในการระดมเงิน มูดี้ส์ยังเตือนว่า ไม่เห็นวิธีแก้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศที่น่าเชื่อถือ

ตามรายงานของเดอะ การ์เดียน ฝรั่งเศสและเยอรมนีตกลงว่า แบงก์ยุโรปควรเพิ่มทุนเพื่อให้สอดคล้องกับสัดส่วนเงินทุนต่อสินเทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ระดับ 9% ตามที่สำนักงานการธนาคารยุโรปเรียกร้อง

สื่อเมืองสิงโตคำรามเสริมว่า แม้ธนาคารในเยอรมนีและฝรั่งเศสสามารถตอบสนองข้อเรียกร้องนี้ได้ด้วยตนเอง แต่แบงก์ชาติอื่นอาจต้องการความช่วยเหลือจากรัฐหรือการขยายอีเอฟเอสเอฟ

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เบอร์ลินและปารีสใกล้บรรลุข้อตกลงในการเพิ่มสัดส่วนในการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการให้ความช่วยเหลือกรีซงวดที่ 2 มูลค่า 109,000 ล้านดอลลาร์

ผู้ถือพันธบัตรภาคเอกชนตกลงลดหนี้โดยสมัครใจ 21% ในเดือนกรกฎาคม แต่ภาวะทางการเงินของกรีซที่ย่ำแย่ลง กระตุ้นให้เยอรมนีต้องผลักดันให้เอกชนรับภาระเพิ่มเป็น 50%

ทั้งนี้ นักการทูตอียูเผยเมื่อวันอังคาร (18) ว่า ประธานอินสติติวท์ ออฟ อินเตอร์เนชันแนล ไฟแนนซ์ กลุ่มล็อบบี้ของธนาคาร ได้ประชุมกับเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย เจ้าหน้าที่อียูที่เป็นผู้จัดซัมมิต เพื่อหารือเรื่องการเพิ่มทุนและการลดหนี้กรีซ

วันเดียวกัน แหล่งข่าวจากพรรครัฐบาลเมืองเบียร์เผยว่า นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล คาดว่าผู้นำยุโรปจะคลอด 'แผนการทำงาน’ สำหรับกรีซในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งอาจรวมถึงภารกิจถาวรของเจ้าหนี้ต่างชาติในการติดตามตรวจสอบหนี้ของเอเธนส์

แมร์เคิลกล่าวกับลูกพรรคคริสเตียน เดโมแครตส์ (ซีดียู) ว่าซัมมิตอียูควรหาวิธีทำให้มั่นใจว่า มีการนำอีเอฟเอสเอฟไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ กระนั้น ผู้นำเมืองเบียร์ไม่เห็นด้วยที่จะให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มาอัดฉีดให้

แหล่งข่าวเสริมว่า แมร์เคิลคาดว่าที่ประชุมจะเห็นพ้องให้ส่งประเทศที่ทำผิดกฎการขาดดุลงบประมาณของอียูเข้าสู่การพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจะสร้างความพอใจให้แบงก์เอกชนที่เรียกร้องมาตลอดให้ผู้วางนโยบายของยุโรปเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องนี้

นอกจากนั้น แมร์เคิลยังตอกย้ำว่า แม้ซัมมิตอียูมีเป้าหมายในการเอาชนะวิกฤตหนี้สาธารณะ ทว่าหนี้เหล่านี้ใช้เวลาสะสมมาเป็นปี ดังนั้น การประชุมเพียงหนเดียวจึงไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ทันตา

สอดรับกับนิโคลาส์ ซาร์โคซี ผู้นำฝรั่งเศส ที่กล่าวเพียงว่ายุโรปกำลังเตรียมพร้อมตัดสินใจครั้งสำคัญ

แมร์เคิลยังสำทับว่า ผู้นำอียูจะใช้การประชุมครั้งนี้สนับสนุนเงินยูโรที่ถูกกดดันจากตลาดการเงินอย่างหนัก