เดลิเมล์ - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งจากฮาร์วาร์ดชี้ สตีฟ จ็อบส์ อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล ผู้ล่วงลับ อาจจะยังมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ หากเขาไม่พึ่งพาการเยียวยาแบบทางเลือกแทนที่จะรับรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน
ดร.แรมซี อัมรี นักวิจัยจากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด อ้างว่า อดีตนายใหญ่แอปเปิลเป็นมะเร็งชนิดที่ไม่ร้ายแรง ซึ่งยากจะทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่ทางเลือกที่เขาตัดสินใจใช้ในการรักษาตัวนั้นนำไปสู่การเสียชีวิตก่อนเวลาโดยใช่เหตุ
"ผมขอตัดไปพูดในเรื่องสำคัญคือ มิสเตอร์จ็อบส์เลือกทำการรักษาแบบทางเลือกทุกประเภท ก่อนที่จะเลือกรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน" ดร.อัมรีเขียนลงในเว็บไซต์ควอรา
จ็อบส์เสียชีวิตเนื่องจากการหยุดหายใจ อันเป็นสาเหตุมาจากมะเร็งตับอ่อน ซึ่งแพร่กระจาย ด้วยวัย 56 ปี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเอกสารรับรองการเสียชีวิต ที่ออกโดยหน่วยงานทางการแพทย์ของรัฐบาลท้องถิ่นซานฟรานซิสโก
ในเอกสารดังกล่าวนั้นระบุว่า จ็อบส์มีเนื้อร้ายมาเป็นเวลา 8 ปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ซึ่งเขาได้รับการวินิจฉัยเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี 2003 ทว่า ดร.อัมรีอ้างว่า โรคร้ายนี้คร่าชีวิตจ็อบส์เร็วเกินไป เนื่องจากเขาปฏิเสธที่จะรับการรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาเริ่มน้ำหนักลดลงจนเห็นได้ชัด
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับมะเร็งตับอ่อนรายนี้เสริมว่า ขณะที่อาการของเขาทรุดลงเรื่อยๆ จ็อบส์ก็ยังเลือกที่จะอุทิศเวลาของเขาให้กับการทำงานในบริษัทแอปเปิล แทนที่จะเข้ารับการทำเคมีบำบัด หรือการรักษาตามแผนปัจจุบันอื่นๆ
ในช่วง 9 เดือนของการวินิจฉัยโรคระหว่างปี 2003 ถึงกรกฎาคม ปี 2004 เป็นอย่างน้อย จ็อบส์เลือกใช้การรักษามะเร็งตับอ่อนด้วยวิธีทางเลือก เช่น การจำกัดอาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัด ตามรายงานของซีเอ็นเอ็นเมื่อปี 2008
อย่างไรก็ตาม มะเร็งได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้จ็อบส์ต้องเข้ารับการผ่าตัดวิปเปิล ซึ่งเป็นการผ่าตัดเอาตับอ่อน และลำไส้เล็กส่วนต้นออก การนี้ ดร.อัมรีชี้ว่า กระบวนการดังกล่าวไม่มีความจำเป็นเลยหากผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลรับการรักษาที่จำเป็นเร็วกว่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น ดร.อัมรีอ้างว่า ถ้าจ็อบส์ผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกไปซะตั้งแต่ที่เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ เขาก็อาจจะมีชีวิตรอดอยู่อย่างสบาย โดยไร้อาการข้างเคียงตกค้างด้วย
ผู้เชี่ยวชาญจากฮาร์ดวาร์ดเสริมว่า มะเร็งตับอ่อนของจ็อบส์นั้นเป็นชนิด neuroendocrine ซึ่งไม่รุนแรง และพบได้ยาก เมื่อเทียบกับผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนชนิด adenocarcinoma ที่ผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนถึง 95% เป็น
"ในจำนวนผู้ป่วยของผมหลายๆ รุ่น หลายๆ ชนิดย่อย อัตราการรอดชีวิตนั้นสูงถึง 100% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา" เขาสำทับ โดยยืนยันว่า เขาเคารพซีอีโอแอปเปิลรายนี้ และผลงานของเขาอย่างที่สุด การแสดงความเห็นของเขานั้นก็ไม่ได้ต้องการสร้างความไม่พอใจให้แก่ใครด้วย