เผยรายได้ครัวเรือนมะกันช่วง 2 ปีหลัง หล่นฮวบยิ่งกว่าครั้งเศรษฐกิจตกต่ำ

เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เผย รายได้เฉลี่ยต่อครอบครัวของสหรัฐฯ ในช่วง 2 ปีหลังพ้นสภาพเศรษฐกิจถดถอย กลับตกลงมากกว่าในช่วงเศรษฐกิจขาลงเองเสียอีก

การศึกษาโดยอดีตเจ้าหน้าที่สำนักสำมะโนประชากร 2 คน พบว่า ระหว่างเดือนมิถุนายน ปี 2009 เมื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลง จนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2011 รายได้ครัวเรือนเมื่อคิดตามค่าเงินเฟ้อ ร่วงลง 6.7% เหลือ 49,909 ดอลลาร์

ขณะที่ในช่วงที่สหรัฐฯ เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2007-มิถุนายน ปี 2009 รายได้สุทธิของครัวเรือนลดลงเพียง 3.2% หรือครึ่งหนึ่งของตัวเลขในช่วง 2 ปีหลังจากนั้น นิวยอร์กไทมส์รายงาน

ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงสาเหตุที่ชาวอเมริกันรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับอนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจจะโตขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่พ้นสภาวะความซบเซานั้นมาแล้ว

ข้อมูลเหล่านั้นถูกรวบรวมขึ้นโดยกอร์ดอน ดับเบิลยู กรีน จูเนียร์ และจอห์น เอฟ โคเดอร์ อดีตเจ้าหน้าที่สำมะโนประชากร ซึ่งอธิบายถึงการที่รายได้ลดลงสะสมนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจเริ่มต้นจนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ว่าเป็น “การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของมาตรฐานการดำรงชีวิตของชาวอเมริกัน”

เศรษฐกิจที่สั่นคลอนเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการเอาชนะการเลือกตั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ผู้นำไว้เป็นสมัยที่ 2 รวมถึงอัตราการว่างงานที่พุ่งถึง 9.1% การเติบโตอย่างตะกุกตะกัก และวิกฤตหนี้สินในยุโรโซน ยิ่งเพิ่มความหวาดหวั่นว่าจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำซ้อน

รายงานฉบับนี้ออกมาหลังจากการศึกษาของสำนักสำมะโนประชากรในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเผยว่าอัตราความยากจนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2010 ถึง 15.1% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 1993 และมากกว่า 14.3% ของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ นิยามความยากจนของสหรัฐฯ คือ ครอบครัวที่มีรายได้ต่อปี 22,314 ดอลลาร์ต่อสมาชิก 4 คน และ 11,139 ดอลลาร์สำหรับสมาชิกเพียงคนเดียว