เอเจนซี - หนังสือพิมพ์ชั้นนำแดนมังกรกระตุ้นยุโรปจัดการขั้นเด็ดขาดกับวิกฤตหนี้ หรือเสี่ยงตัดสมาชิกบางรายออกจากสกุลเงินเดียว ด้านกรีซมั่นใจได้เงินกู้จาก ‘ทรอยกา’ คาดสรุปแผนรัดเข็มขัดได้เร็วๆ นี้
“ยุโรปกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องแสดงสติปัญญา ความกล้าหาญ และการแก้ปัญหาอย่างดีเยี่ยม รวมทั้งลงมือทำอย่างจริงจัง” เสียงเรียกร้องนี้ปรากฏอยู่ในบทวิเคราะห์หน้าหนึ่งของเหรินหมินรึเป้า หนังสือพิมพ์อย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตอกย้ำความกังวลของปักกิ่งที่มีต่อการลงทุนของตนในยูโรโซน
บทวิจารณ์ดังกล่าวที่ระบุชื่อผู้เขียนว่า ชินหง ผู้เชี่ยวชาญการศึกษากิจการระหว่างประเทศ สำทับว่า ถ้าตั้งสหภาพการคลังได้ ยุโรปจะสามารถพลิกชะตาตัวเองได้ แต่ถ้าตัดสินใจช้าเกินไป สมาชิกสกุลเงินยูโรบางชาติอาจถูกบีบให้หลุดจากกลุ่ม ซึ่งแม้เป็นผลลัพธ์ที่เจ็บปวด แต่ยังดีกว่าการรีรอที่รังแต่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงโดยเร็ว คนนอกที่อยากช่วยก็ไม่กล้าช่วย ยูโรโซนจะยิ่งแตกแยกและกลายเป็นมหันตภัยสำหรับทั้งยุโรปและโลก
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่าทุนสำรอง 1 ใน 4 จากทั้งหมด 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ที่จีนถือครองอยู่ในรูปสินทรัพย์สกุลเงินยูโร
ปักกิ่งพูดมาตลอดว่ามั่นใจในยูโรและความพยายามของยุโรปในการจัดการวิกฤต แต่ขณะเดียวกันกลับมีการแสดงความกังวลออกมามากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของสินทรัพย์สกุลยูโร
ปัจจุบัน กำลังมีการถกเถียงในสหภาพยุโรป (อียู) เกี่ยวกับสนธิสัญญาต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับสหภาพการคลังในมิติที่ลึกขึ้น และการจัดการกับวิกฤตอย่างดียิ่งขึ้น
เหรินหมินรึเป้าเสริมว่า ความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงด้านเศรษฐกิจของชาติสมาชิก โดยเฉพาะทางเหนือและทางใต้ของยุโรป ทำให้การผลักดันแผนการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย
สำหรับสถานการณ์วิกฤตหนี้ยูโรโซนล่าสุดนั้น อีแวนเจลอส เวนิเซลอส รัฐมนตรีคลังกรีซ ให้สัมภาษณ์ว่ามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เกี่ยวกับวิธีการรักษาสัญญาในการปลดข้าราชการในวันอาทิตย์ (2) ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการรับเงินกู้งวดต่อไปมูลค่า 8,000 ล้านยูโร (10,700 ล้านดอลลาร์)
คณะเจรจาจากไอเอ็มเอฟ อียู และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) หรือ ‘ทรอยกา’ เดินทางออกจากกรีซเมื่อเดือนที่แล้วโดยระบุว่าไม่เชื่อว่าเอเธนส์สามารถลดการใช้จ่ายและขึ้นภาษีได้จริง
อย่างไรก็ดี สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะเจรจากลับสู่เอเธนส์อีกครั้ง หลังจากได้รับการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่ารัฐบาลกรีซจะทำตามสัญญาในการเร่งแผนลดข้าราชการลง 1 ใน 5 ภายในปี 2015 ขึ้นภาษี และลดเงินเดือนข้าราชการ โดยมีการเจรจาสามวันรวดจนถึงวันเสาร์ (1)
หนึ่งในมาตรการเพื่อเริ่มปลดข้าราชการคือ นำข้าราชการ 30,000 คนเข้าสู่ ‘การสำรองแรงงาน’ ซึ่งหมายถึงการได้รับเงินเดือนเพียง 60% เป็นเวลา 1 ปีก่อนปลดออกหากไม่สามารถหางานใหม่ได้
รัฐธรรมนูญของกรีซนั้นรับประกันการจ้างงานข้าราชการตลอดชีพ ทำให้คำมั่นในการลดจำนวนข้าราชการกลายเป็นทุ่นระเบิดทางกฎหมายและการเมือง
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกรีซผู้หนึ่งเผยว่า เอเธนส์ต้องการสรุปการเจรจากับทรอยกาเกี่ยวกับการสำรองแรงงานภายในวันอาทิตย์ (2) และเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติในวันถัดไป กระนั้น จนถึงล่าสุดรัฐบาลยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะจัดสรรข้าราชการส่วนใดเข้าสู่การสำรองแรงงาน ขณะที่หนังสือพิมพ์คาธีเมรินีฉบับเช้าวันอาทิตย์รายงานว่า สมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคนขู่ลาออกแทนที่จะอนุมัติการปลดข้าราชการ
มาตรการเข้มงวดเหล่านี้ไม่เป็นที่พอใจอย่างรุนแรง โดยผู้ไม่เห็นด้วยระบุว่า การปลดข้าราชการจะทำให้ผลจากวิกฤตเศรษฐกิจเรื้อรัง 3 ปียิ่งเลวร้าย และกระทบอย่างหนักต่อคนจนและชนชั้นกลาง สหภาพแรงงานเตรียมกดดันด้วยการประท้วงและนัดหยุดงานในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และความที่รัฐบาลพรรคโซเชียลลิสต์มีเสียงข้างมากในสภาเพียง 4 ที่นั่ง จึงอาจถูกบีบให้ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด หากส.ส.จำนวนมากออกมาขวางมาตรการรัดเข็มขัด
ขณะเดียวกัน อิวาน ไมคลอส รัฐมนตรีคลังสโลวาเกีย ที่แม้เป็นประเทศเล็กๆ แต่สามารถขวางแผนขยายกองทุนกู้วิกฤตยุโรปได้นั้น กล่าวว่าผู้วางนโยบายจำเป็นต้องพร้อมรับผลกระทบจากการล้มละลายของกรีซ กรณีที่ทรอยกาสรุปว่าการผิดนัดชำระหนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้