เอเอฟพี - ซีเรียประณามการแทรงแซงจากนานาประเทศ และกล่าวหาชาติตะวันตก กลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เมื่อวันจันทร์ (26) ถึงความพยายามปลุกปั่น “การจลาจลเต็มรูปแบบ” ขณะที่กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนรายงานว่า รัฐบาลเพิ่งปลิดชีพทหาร 4 นายที่คิดหนีทหาร ท่ามกลางความรุนแรงที่สังหารชีวิตประชาชนไปแล้วมากกว่า 2,700 ราย
วานนี้ จีนยังได้แสดงความกังวลกรณีความรุนแรงที่ยืดเยื้อในซีเรีย ส่วนสหรัฐฯ ก็กำลังกดดันทางการปักกิ่ง ซึ่งมีสิทธิ์ใช้อำนาจยับยั้ง (วีโต้) ให้สนับสนุนบทลงโทษซีเรียของยูเอ็น
หยาง เจียฉือ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน แสดงความกัลวลในที่ประชุมยูเอ็น ณ นครนิวยอร์ก กรณีวิกฤตความรุนแรงที่ยังคงยืดเยื้อไม่จบไม่สิ้นของซีเรีย พร้อมกันนั้นได้เรียกร้องให้ผู้ประท้วงและกองกำลังรัฐบาลซีเรียยุติความรุนแรงไว้ว่า “เราหวังว่ากลุ่มต่างๆ ในซีเรียจะยับยั้งและหลีกเลี่ยงความรุนแรง การนองเลือด และความขัดแย้ง ในรูปแบบต่างๆ พร้อมทั้งหาทางออกจากการเผชิญหน้าโดยเร็ว”
จีนและรัสเซียเป็นหัวหอกคัดค้านบทลงโทษต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ซึ่งองค์กรของยูเอ็นรายงานว่า ได้สังหารประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2,700 ราย ตั้งแต่เดือนมีนาคม
นอกจากนี้ มีรายงานว่า ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้วิงวอนให้จีนสนับสนุนมติของยูเอ็นต่อซีเรีย ระหว่างการพบปะกับรัฐมนตรีหยาง เจียฉือ ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 66
ขณะเดียวกัน วาลิด มูอัลเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย ประกาศกลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่ว่า ชาติตะวันตกต้องการให้เกิดการจลาจลเต็มรูปแบบ ซึ่งจะนำไปสู่ความแตกแยกภายในซีเรีย และการประท้วงต่อต้านรัฐบาลก็จะกลายเป็น “ข้ออ้างในการแทรงแซงของต่างชาติ”
รัฐมนตรีวาลิด มูอัลเลม ยังประณามรัฐบาลนานาชาติอย่างไม่ไว้หน้าว่า กำลังพยายามบ่อนทำลายการอยู่ร่วมกันระหว่างศาสนาต่างนิกายในซีเรีย
ทั้งนี้ ทางการซีเรียยังคงไม่ยอมรับการต่อต้านอำนาจรัฐของประชาชน โดยโยนความผิดให้ “กลุ่มติดอาวุธ” และ “กลุ่มก่อการร้าย” ว่าเป็นผู้ปลุกระดมความไม่สงบภายในประเทศ
ด้าน กลุ่มสังเกตการณ์สิทธมุนษยชนซีเรียได้รายงานถึงการเสียชีวิตของทหารที่คิดแปรพักตร์จากรัฐบาล ว่า “ทหาร 4 นายในเมืองอิดลิบถูกยิงเสียชีวิต ขณะพยายามหนีออกจากค่ายทหารวาดีเดอีฟ”
ขณะที่สำนักข่าวซานา ของทางการซีเรีย เสนอรายงานการจับกุม “อาวุธและเครื่องกระสุน” ในบ้านหลังหนึ่งใกล้กับชายแดนจอร์แดน พร้อมทั้งการเปิดโปงการตรวจพบรถที่บรรทุก “อาวุธและวัตถุระเบิด” จากอิสราเอล