เอเอฟพี - สตรีชาวอินโดนีเซียราว 50 คน พร้อมใจกันสวมกระโปรงสั้นในวันนี้ (18) เพื่อชุมนุมประท้วงความเห็นของผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา ซึ่งตำหนิการแต่งกายของเหยื่อคดีรุมโทรมที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
วันศุกร์ (16) ที่ผ่านมา เฟาซี โบโว ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีข่มขืนที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนนี้ เรียกร้องให้ผู้หญิงอินโดนีเซียเลิกนุ่งกระโปรงสั้น ระหว่างใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะในกรุงจาการ์ตา หลังจากมีเหยื่อวัย 27 ปีรายหนึ่งถูกรุมโทรมและปล้นทรัพย์ในรถตู้โดยสารสาธารณะ
ตำรวจอิเหนายังไม่สามารถจับกุมกลุ่มคนร้ายได้ ขณะที่เหยื่อเปิดเผยหลังจากผ่านวันเกิดเหตุมา 2 สัปดาห์ว่า ยังเห็นหนึ่งในคนร้ายขับรถผ่านไปในเมืองหลวง
ชีกา โนยา ผู้ประสานงานการประท้วง ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี ว่า “เรามารวมตัวกันเพื่อแสดงความไม่พอใจ แทนที่จะกำหนดบทลงโทษสถานหนักกับผู้ข่มขืน ผู้ว่าราชการจังหวัดกลับตำหนิการแต่งตัวของผู้หญิง นี่มันเป็นการเลือกปฏิบัติ”
สตรีผู้ประท้วงในวันนี้ต่างสวมเสื้อคอกว้าง-กระโปรงสั้น และชุมนุมกัน ณ วงเวียนหลักกลางกรุงจาการ์ตา มีป้ายประท้วงบางส่วนเขียนไว้ว่า “อย่าบอกเราว่าต้องใส่อะไร แต่ช่วยห้ามพวกเขาไม่ให้ข่มขืน” และ “กระโปรงสั้น สิทธิของฉัน”
โนยา กล่าวว่า “การข่มขืนเป็นอาชญากรรมต่อมุนษยชาติ” พร้อมทั้งเรียกร้องให้เฟาซี โบโว รับประกันความปลอดภัยของผู้หญิงในการโดยสารรถสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (17) เฟาซี โบโว ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อความเห็นดังกล่าว ทว่า ก็ไม่สามารถระงับความโกรธเกรี้ยวของนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีเหล่านี้ได้
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เกิดคดีข่มขืนขึ้นในกรุงจาการ์ตาแล้ว 41 คดี ขณะที่ปี 2010 ทั้งปี มีคดีข่มขืนในเมืองหลวงอินโดนีเซียซึ่งมีประชากร 12 ล้านคนแห่งนี้ จำนวน 40 คดี
นอกจากนี้ ธีตา กาตูรานี หนึ่งในผู้ประท้วง เปิดเผยว่า การประท้วงวันนี้ได้รับการแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ “สลัตวอล์ก” ที่เริ่มขึ้นในนครโทรอนโต แคนาดา เมื่อเดือนเมษายน โดยผู้หญิงจำนวนมากพากันนุ่งน้อยห่มน้อย เดินขบวนประท้วงความเห็นของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งระบุว่า “ผู้หญิงควรเลี่ยงการแต่งตัวเหมือนโสเภณี เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อคดีข่มขืน”