เอเอฟพี - สหรัฐฯ พยายามใช้กลยุทธ์ทางการทูตเพื่อโน้มน้าวให้ผู้นำปาเลสไตน์ยกเลิกแผนเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติยอมรับสถานะความเป็นรัฐของดินแดนปาเลสไตน์ หนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานวานนี้ (3)
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ และนักการทูตต่างชาติให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทม์สว่า ความพยายามของรัฐบาลอเมริกันอาจสายเกินไปแล้ว
รัฐบาลโอบามาเสนอให้เปิดการเจรจาสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลขึ้นอีกครั้ง โดยหวังชักจูงให้ประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ยอมยกเลิกแผนยื่นคำร้องต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 กันยายนนี้
อิสราเอลพยายามคัดค้านการขอเข้าเป็นสมาชิกยูเอ็นของปาเลสไตน์อย่างเต็มที่ ซึ่งแผนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่การเจรจาระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายหยุดชะงักไปนานกว่า 1 ปี เนื่องจากอิสราเอลยังปล่อยให้ชาวยิวขยายถิ่นฐานอย่างต่อเนื่อง
สหรัฐฯ แย้งว่า ปาเลสไตน์จะได้ความเป็นรัฐอย่างสมบูรณ์ผ่านการเจรจาสันติภาพกับอิสราเอลเท่านั้น พร้อมขู่จะใช้สิทธิ์วีโตคำร้องของปาเลสไตน์ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย นิวยอร์ก ไทม์ส เผย
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ไม่มีเสียงสนับสนุนมากพอที่จะขัดขวางการโหวตในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อยกสถานะของปาเลสไตน์จาก “ดินแดนสังเกตการณ์ซึ่งไม่มีสิทธิออกเสียง” (nonvoting observer entity) ขึ้นเป็น “รัฐ” สังเกตการณ์ซึ่งไม่มีสิทธิ์ออกเสียงได้ นิวยอร์ก ไทม์ส ชี้
การยกสถานะของดินแดนปาเลสไตน์ขึ้นเป็นรัฐจะเป็นการปูทางให้ปาเลสไตน์เข้าเป็นส่วนหนึ่งองค์กรและสนธิสัญญาต่างๆ ของยูเอ็น และทำให้ปาเลสไตน์สามารถยื่นฟ้องอิสราเอลต่อศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศได้ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงาน
เจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เพียงต้องการเลี่ยงใช้สิทธิวีโตเท่านั้น แต่ยังต้องการยับยั้งการลงคะแนนโหวตอันมีนัยยะสำคัญใดๆ ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ และอีกไม่กี่ประเทศต้องตกเป็นฝ่ายคัดค้านส่วนน้อย ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาทางใดก็จะยิ่งโหมกระแสความโกรธแค้นในดินแดนปาเลสไตน์ ตลอดจนโลกอาหรับซึ่งคุกรุ่นด้วยไฟความขัดแย้งอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ และนักการทูตต่างชาติให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทม์สว่า ความพยายามของรัฐบาลอเมริกันอาจสายเกินไปแล้ว
รัฐบาลโอบามาเสนอให้เปิดการเจรจาสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลขึ้นอีกครั้ง โดยหวังชักจูงให้ประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ยอมยกเลิกแผนยื่นคำร้องต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 กันยายนนี้
อิสราเอลพยายามคัดค้านการขอเข้าเป็นสมาชิกยูเอ็นของปาเลสไตน์อย่างเต็มที่ ซึ่งแผนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่การเจรจาระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายหยุดชะงักไปนานกว่า 1 ปี เนื่องจากอิสราเอลยังปล่อยให้ชาวยิวขยายถิ่นฐานอย่างต่อเนื่อง
สหรัฐฯ แย้งว่า ปาเลสไตน์จะได้ความเป็นรัฐอย่างสมบูรณ์ผ่านการเจรจาสันติภาพกับอิสราเอลเท่านั้น พร้อมขู่จะใช้สิทธิ์วีโตคำร้องของปาเลสไตน์ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย นิวยอร์ก ไทม์ส เผย
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ไม่มีเสียงสนับสนุนมากพอที่จะขัดขวางการโหวตในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อยกสถานะของปาเลสไตน์จาก “ดินแดนสังเกตการณ์ซึ่งไม่มีสิทธิออกเสียง” (nonvoting observer entity) ขึ้นเป็น “รัฐ” สังเกตการณ์ซึ่งไม่มีสิทธิ์ออกเสียงได้ นิวยอร์ก ไทม์ส ชี้
การยกสถานะของดินแดนปาเลสไตน์ขึ้นเป็นรัฐจะเป็นการปูทางให้ปาเลสไตน์เข้าเป็นส่วนหนึ่งองค์กรและสนธิสัญญาต่างๆ ของยูเอ็น และทำให้ปาเลสไตน์สามารถยื่นฟ้องอิสราเอลต่อศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศได้ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงาน
เจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เพียงต้องการเลี่ยงใช้สิทธิวีโตเท่านั้น แต่ยังต้องการยับยั้งการลงคะแนนโหวตอันมีนัยยะสำคัญใดๆ ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ และอีกไม่กี่ประเทศต้องตกเป็นฝ่ายคัดค้านส่วนน้อย ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาทางใดก็จะยิ่งโหมกระแสความโกรธแค้นในดินแดนปาเลสไตน์ ตลอดจนโลกอาหรับซึ่งคุกรุ่นด้วยไฟความขัดแย้งอยู่แล้ว
