เอเอฟพี - เมลเบิร์น สามารถล้มแชมป์เก่าหลายสมัย แวนคูเวอร์ ก้าวสู่ทำเนียบเมืองน่าอยู่ที่สุดของโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากผลสำรวจของหน่วยข่าวกรองเศรษฐศาสตร์(Economist Intelligence Unit) ที่เปิดเผยเมื่อวันอังคาร(30)
นครหลวงเมลเบิร์น รั้งอันดับหัวแถวทำเนียบเมืองน่าอยู่ที่สุดของโลกของหน่วยข่าวกรองเศรษฐศาสตร์ปรจำปี 2011 จากทั้งหมด 140 เมืองทั่วโลก โดยสามารถล้ม แวนคูเวอร์ของแคนาดา ที่ครองตำแหน่งดัวกล่าวมาเกือบทศวรรษ ทว่าในปีนี้กลับตกลงไปอยู่ในอันดับ 3 ตามหลังกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย
นอกจากนี้เมลเบิร์นแล้ว หลายเมืองของออสเตรเลียยังโดดเด่นอยู่ใน 10 อันดับแรก ทั้ง ซิดนีย์ ที่อยู่ในอันดับ 6 ขณะที่เพิร์ธและแอดิเลด ครองดันอับ 8 ร่วมกัน ในผลสำรวจที่จัดทำ 2 ครั้งต่อปี
ด้าน แคนาดา ก็มีผลงานยอดเยี่ยมเช่นกัน โดย โทรอนโต และ คัลการี รั้งอันดับ 4 กับ 5 ตามลำดับ ขณะที่เฮลซิงกิ ของฟินแลนด์ ตามมาเป็นอันดับ 7 และโอ๊คแลนด์ ของนิวซีแลนด์ อยู่ที่ 10
การจัดอันดับของหน่วยข่าวกรองเศรษฐศาสตร์ให้คะแนนความน่าอยู่จากเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม อัตราการเกิดอาชญากรรม การเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ กิจกรรมทางวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม การศึกษาและมาตรฐานของระบบสาธารณูปโภคต่างๆ
ด้านเมืองอื่นๆที่ชื่อเสียงรู้จักกันดีอย่าง ปารีส รั้งที่ 16 เหนือกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น 2 อันดับ ขณะที่เมืองอันดับสูงสุดของสหรัฐฯคือ โฮนาลูลู อยู่ที่ 26 ส่วนลอนดอน ดำดิ่งสู่อันดับ 53 ตามหลังสิงคโปร์หนึ่งตำแหน่ง
ตรงกันข้ามกับเมืองต่างๆในออสเตรเลียและแคนาดา ส่วนอื่นๆของโลกพบว่าอันดับเมืองน่าอยู่ของพวกเขาได้รับผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัดและปัญหาความไม่สงบต่างๆ โดยเอเธนส์ ของกรีซ ร่วงมาอยู่ที่ 67 ขณะที่กรุงตริโปลี ของลิเบีย ซึ่งดำดิ่งสู่สงครามกลางเมือง อันดับหล่นจาก 107 สู่ 135 โดยปริยาย
ทั้งนี้เมืองน่าอยู่น้อยที่สุดของโลกคือกรุงฮาราเร เมืองหลวงของซิมบับเว ตามมาด้วยกรุงธากา ของบังกลาเทศและพอร์ตมอร์สบี ของปาปัวนิวกินี