เอเอฟพี - รัฐชัมมูและแคชเมียร์ของอินเดียประกาศนิรโทษกรรมเยาวชนกว่า 1,100 ราย ผู้ถูกจับกุมคดีขว้างปาก้อนหินโจมตีกองกำลังความมั่นคง ระหว่างการประท้วงเรียกร้องเอกราชจากอินเดีย เมื่อปี 2010 แต่ยืนยันดำเนินคดีต่อกลุ่มที่เผาสถานที่ราชการจนถึงที่สุด ทั้งนี้ การประท้วงเรียกร้องเอกราชครั้งนั้นมีพลเรือนเสียชีวิตจากการปะทะ 112 ราย
ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ดินแดนแคชเมียร์ภายใต้อาณัติของอินเดียเกิดความระส่ำระสายนานหลายเดือน หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงใช้ก้อนหินเป็นอาวุธปะทะกับตำรวจและกองกำลังรักษาชายแดน ผู้ใช้กระสุนจริงสลายการชุมนุมต่อต้านการปกครองของกรุงนิวเดลี ผลจากการใช้กระสุนจริงทำให้ผู้ประท้วงเสียชีวิต 112 ราย เหยื่อส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นเพศชายที่ถูกเจ้าหน้าที่อินเดียยิงเสียชีวิต
รัฐบาลรัฐชัมมูและแคชเมียร์ประกาศจะยกฟ้องคดีของกลุ่มเยาวชน “เพื่อให้โอกาสได้ใช้ชีวิตปกติ” โอมาร์ อับดุลเลาะห์ มุขมนตรีรัฐชัมมูและแคชเมียร์ ระบุในคำแถลงที่ได้รับการเปิดเผยช่วงดึกวานนี้ (28)
มุขมนตรีอับดุลเลาะห์ระบุว่า ต้องการ “ลบรอยด่างจากพฤติกรรมของเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับการขว้างหิน” และให้โอกาสพวกเขาได้มีงานทำ “การนิรโทษกรรมนี้จะเป็นเพียงโอกาสเดียวของพวกเขา” พร้อมกันนี้เขายังเปิดเผยว่า นักโทษเยาวชนประมาณ 1,200 ราย จะได้รับอิสรภาพ ก่อนวันอีดิลฟิตรี หรือเทศกาลเฉลิมฉลองการออกจากถือศีลอดของชาวมุสลิม
นอกจากนี้ โอมาร์ อับดุลเลาะห์ ยังประกาศให้ผู้กระทำผิดที่กำลังหลบหนีเข้ามอบตัว และลงทะเบียนรับการนิรโทษกรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ก่อคดีเผาสถานที่ราชการ และรถตำรวจระหว่างการประท้วงเมื่อปีที่แล้วจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรม และจะถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ทั้งนี้ ดินแดนแคชเมียร์ของอินเดียอยู่ภายใต้การควบคุมจากทหารอย่างเข้มงวดมายาวนาน ทว่า ฤดูร้อนปีนี้ยังไม่เกิดความรุนแรงและการประกาศเคอร์ฟิวเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
แคชเมียร์ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน กล่าวคือ ส่วนหนึ่งอินเดียครอบครอง และอีกส่วนหนึ่งอยู่กับปากีสถาน ทั้งสองประเทศนี้ต่างอ้างสิทธิครอบครองเหนือดินแดนแคชเมียร์ทั้งหมด ข้อพิพาทดังกล่าวเป็นประเด็นให้เกิดสงครามมาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ทั้งอินเดียและปากีสถานได้รับเอกราชจากจักรวรรดิอังกฤษ เมื่อปี 1974