เอเจนซี / เอเอฟพี - พายุเฮอร์ริเคน “ไอรีน” พัดถล่มมหานครนิวยอร์ก เมืองหลวงทางการเงินของโลกวันนี้ (28) หลังจากที่เคลื่อนขึ้นสู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ตั้งแต่วันเสาร์ (27) พร้อมกับคร่าชีวิตผู้คนในหลายมลรัฐฯ รายรอบชายฝั่งไปแล้วอย่างน้อย 9 ราย โดยที่ก่อนหน้านั้นทางการนิวยอร์ก รวมทั้งมลรัฐฯ ต่างๆ ได้ระดมมาตรการป้องกันการสูญเสียชีวิตของพลเรือน ด้วยการสั่งอพยพผู้คนรวมหลายล้านคน ตลอดจนสั่งระงับให้บริการระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ทั้งรถไฟใต้ดิน, เรือเฟอร์รี รวมถึงประกาศยกเลิกเที่ยวบินรวมกว่า 8,000 เที่ยว
อิทธิพลพายุเฮอริเคน “ไอรีน” ซึ่งถือเป็นเฮอร์ริเคนลูกแรกในรอบหนึ่งชั่วอายุคนที่พัดถล่มใส่มหานครนิวยอร์ก ได้ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ตลอดจนเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ หลังจากที่มันเคลื่อนตัวด้วยความเร็ววัดที่จุดศูนย์กลาง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เข้าสู่ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เมื่อเวลา 08.00 น.วันเสาร์ (27) ตามเวลาท้องถิ่นโซนตะวันออกของสหรัฐฯ (ตรงกับ 19.00 น.ตามเวลาเมืองไทย) โดยเริ่มต้นที่การพัดถล่มเคป ล็อกเอาต์ ในมลรัฐนอร์ทแคโรไลนา ใกล้กับหมู่เกาะกันชน (barrier islands)
ความรุนแรงของพายุไอรีนซึ่งพัดกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 9 รายในมลรัฐนอร์ทแคโรไลนา, เวอร์จิเนีย และฟลอริดา เมื่อวันเสาร์ (27) ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กชายอายุ 11 ปีที่ถูกต้นไม้หักโค่นลงมาทับ และอีกหลายคนซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ รวมถึงหัวใจวาย
นอกจากนี้ อิทธิพลของไอรีนยังทำให้กระแสไฟฟ้าในหลายเมืองรายรอบชายฝั่งดับ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนกว่า 2 ล้านครัวเรือน
ก่อนหน้านั้น ชาวมหานครนิวยอร์กและอีกหลายมลรัฐทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ โดยเฉพาะนิวเจอร์ซีย์ รวมเกือบ 2 ล้านคน ต่างพากันอพยพจ้าละหวั่น ส่วนที่นิวยอร์กเองก็มีการสั่งอพยพพลเมือง 370,000 คนออกจากในพื้นที่สุ่มเสี่ยง ซึ่งรวมถึงพื้นที่ใกล้กับย่านวอลล์สตรีท ศูนย์กลางย่านธุรกิจและการเงินของโลก รวมถึงเกาะโคนีย์ด้วย
“ขอบของพายุเฮอริเคนลูกนี้ได้พัดมาถึงพวกเราแล้ว” ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ประกาศเมื่อค่ำคืนวันเสาร์ เตือนพลเมืองกว่า 8 ล้านคนในเมืองซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดของสหรัฐฯ แห่งนี้
เขากล่าวต่อไปว่า “ถึงตอนนี้ หากคุณยังไม่ได้อพยพลี้ภัย พวกเราก็ขอแนะนำให้คุณอยู่แต่ภายในที่พักอาศัย เพราะธรรมชาตินั้นทรงพลานุภาพเหนือกว่าพวกเราทั้งหมดมากนัก”
นอกจากนี้ ทางการยังสั่งระงับให้บริการระบบขนส่งมวลชนสำคัญๆ ในมหานครแห่งนี้เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันเสาร์ (27) เป็นต้นว่า ระบบรถไฟใต้ดิน, รถโดยสารประจำทาง ตลอดจนเรือเฟอร์รีไปยังเกาะสเตเตน นอกจากนี้สนามบิน 3 แห่งหลัก อันประกอบด้วย ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี, ลาการ์เดีย และนูอาร์ก ลิเบอร์ตี ต่างก็ปิดให้บริการทุกเที่ยวบินตั้งแต่เวลา 22.00 น.วันเสาร์ (9.00 น.วานนี้เวลาเมืองไทย)
บรรดาเจ้าหน้าที่ยังประกาศเตือนความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นในนิวยอร์กด้วย โดยสาเหตุของมันไม่ใช่เพียงเพราะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเท่านั้น แต่ยังมาจากลมกรรโชกแรงซึ่งพัดพาน้ำทะเลจากมหาสมุทรแอตแลนติกขึ้นบกด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสน้ำทะเลหนุนตัวขึ้นสูงสุดในตอนเช้าวันอาทิตย์ (28) ตามเวลาท้องถิ่น
พื้นที่ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงจมอยู่ใต้บาดาล ประกอบด้วย พื้นที่ย่านธุรกิจหลายส่วนในแมนฮัตตัน และรีสอร์ตริมทะเลหลายแห่งในบรู๊กลินและควีนส์ซึ่งตั้งอยู่ในที่ลาดต่ำ ตลอดจนในลอง ไอส์แลนด์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หลายคนระบุว่า ตึกระฟ้าในแมนฮัตตันไม่น่าจะได้รับความเสียหายร้ายแรง ทว่าก็เตือนว่า ชาวเมืองที่พักอาศัยบนตึกสูงอาจติดอยู่ข้างในโดยที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ รวมถึงน้ำประปา หรือลิฟต์อาจใช้การไม่ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ผลจากคำประกาศเตือนภัย รวมถึงมาตรการอพยพและแนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน ตลอดจนการสั่งระงับระบบการขนส่งสำคัญในนิวยอร์ก ทำให้มหานครซึ่งไม่เคยหลับไหลแห่งนี้ตกอยู่ในสภาพราวกับเมืองร้าง โดยที่ตามท้องถนนสายต่างๆ ปลอดจากผู้คนในแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน