เอเอฟพี - การผละงานประท้วง 48 ชั่วโมงในชิลีลุกลามกลายเป็นเหตุปะทะรุนแรงวันที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อวันพฤหัสบดี (25) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ชุมนุมได้มากกว่า 200 ราย ระหว่างการประท้วงของนักศึกษาซึ่งได้การสนับสนุนจากสหภาพแรงงาน เพื่อเรียกร้องการปฏิรูประบบการศึกษาของประเทศ
ประชาชนประมาณ 175,000 คนผละงานประท้วงในหลายสิบเมืองทั่วชิลี โดยเฉพาะในย่านใจกลางกรุงซันติอาโก เมืองหลวงชิลี มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 50,000 คน แม้บรรยากาศการชุมนุมในเมืองหลวงโดยรวมเป็นไปอย่างรื่นเริง แต่ก็มีปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มยุวชนเกิดขึ้นประปราย อย่างไรก็ตาม การชุมนุมในเมืองอื่นๆ กลับลุกลามเป็นความรุนแรง ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 27 ราย และกลุ่มผู้ประท้วงถูกจับกุม 210 ราย
ทางการชิลีเปิดเผยว่า การประท้วงในคืนที่ผ่านมายังไม่รุนแรงเท่าเหตุการณ์ในวันพุธ (24) ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 36 ราย ผู้ชุมนุมถูกจับกุม 348 ราย และนับเป็นเหตุรุนแรงที่สุด ตั้งแต่ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 17 เดือนก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การผละงานประท้วงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา องค์กรกองเฟเดราซิออง เคเนรัล เด ตราบาคาโดเรส (เซเคเต) สหภาพแรงงานชิลีที่มีสมาชิกกว่า 780,000 คน เป็นแกนนำการชุมนุม เพื่อสนับสนุนกลุ่มนักศึกษาที่เรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูประบบการศึกษาของประเทศครั้งใหญ่
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มเยาวชนชิลีก่อเหตุประท้วงครั้งใหญ่ขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน โดยมีวัตถุประสงค์ให้รัฐบาลยกเลิกระบบใบสำคัญจ่าย (voucher system) ทางการศึกษา ซึ่งมุ่งเน้นสนับสนุนมหาวิทยาลัยเอกชน และเรียกร้องการปฏิรูประบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยรัฐให้มีคุณภาพและปลอดค่าเทอม
สหภาพแรงงานเซเคเตประกาศว่า มีแรงงานร่วมผละงานประท้วงประมาณ 600,000 คน และกว่า 80 เปอร์เซนต์มาจากหน่วยงานราชการ ขณะที่กระทรวแรงงานชิลีโต้แย้งว่า มีข้าราชการเพียง 9 เปอร์เซนต์เท่านั้นที่เข้าร่วมประท้วง