เอเจนซี/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (2) เซ็นรับรองประกาศบังคับใช้กฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะและตัดลดรายจ่ายภาครัฐเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณแผ่นดินตลอดจนหลีกเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้ หลังจากผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภา
โอบามาลงนามโดยแทบจะทันทีหลังร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนน 74-26 เสียง หนึ่งวันหลังผ่านการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรอย่างท่วมท้น 269-161 เสียง ทันเส้นตายเที่ยงคืนของวันอังคาร (2) อย่างฉิวเฉียด
เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “ท่านประธานาธิบดีลงนามในร่างกฎหมายเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว”
28 เสียงจากรีพับลิกันคู่ปรับของโอบามา เทคะแนนร่วมกับวุฒิสมาชิกจากเดโมแครตและ ส.ว.อิสระอีก 1 คน ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ ขณะที่พวกที่คัดค้านก็มี ส.ว.รีพับลิกัน 19 ราย เดโมแครต 6 ราย และ ส.ว.อิสระ 1 คน
กฎหมายนี้จะขยายเพดานก่อหนี้ของวอชิงตันเพิ่มอีก 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ก่อหนี้จนชนเพดานที่ระดับ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ขณะเดียวกันก็จะตัดลดการขาดดุลงบประมาณระยะเวลา 10 ปี
ประธานาธิบดีโอบามาบอกกับผู้สื่อข่าวไม่นานหลังร่างกฎหมายได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เรียกร้องให้สมาชิกสภาครองเกสพุ่งเป้าไปที่การส่งเสริมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นลำดับต่อไปด้วยมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยธุรกิจต่างๆ กลับมาจ้างงานอีกครั้ง
“เรามิอาจถ่วงงบประมาณไว้บนหลังของประชาชนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากภาวะถดถอยอยู่ก่อนแล้ว” โอบามาบอกกับผู้สื่อข่าว “ทุกคนควรมีส่วนร่วม มันคือความยุติธรรม นั่นคือหลักการที่ผมจะต่อสู้ในขั้นตอนต่อไปของกระบวนการนี้”
พรรคริพับลิกันให้คำมั่นว่าการตัดลดรายจ่ายจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีทเตือนว่ามาตรการรัดเข็มขัดเหล่านั้นจะฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่เฉื่อยชาอยู่ก่อนแล้วขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลก็ใกล้หมดอายุ