เอเอฟพี - ราคาน้ำมันโลกผันผวนเมื่อวันจันทร์ (1) จากข้อความกังวลต่อข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ในวอชิงตันและข้อมูลภาคการผลิตที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ โดยปัจจัยหลังนี้ฉุดให้วอลล์สตรีทแกว่งตัวกลับไปปิดในแดนลบ ขณะที่นักลงทุนเฝ้าจับตาร่างกฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะและตัดลดงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ ที่กำลังเข้าสู่การอภิปรายในสภาคองเกรส
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 81 เซ็นต์ ปิดที่ 94.89 ดอลลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งขยับขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 7 เซ็นต์ ปิดที่ 116.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ช่วงต้นของการซื้อขาย ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงว่าบรรดาผู้นำในรัฐสภาของพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน ใช้เวลากว่า 11 ชั่วโมงเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ (31) หารือจนสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในการที่จะขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะและตัดลดงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้รัฐบาลหลีกเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิ่งกลับมาอยู่ในแดนลบ หลังข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ เผยให้เห็นว่าภาคการผลิตของประเทศสะดุดลงในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ พบดัชนีคำสั่งซื้อเพื่อการผลิตลดลงเหลือ 50.9 จุด จาก 55.3 จุดของเดือนมิถุนายน ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ลดลงเหลือเพียง 49.2 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวอย่างชัดเจน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (1) ก็ผันผวนหนัก โดยแม้ร่างกฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะและตัดลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้กำลังเข้าสู่สภาหลังผู้นำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันตกลงกันได้แล้ว ทว่าความกังวลต่อภาคการผลิตก็ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดตัวในแดนลบ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 10.75 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,132.49 จุด แนสแดค ลดลง 11.77 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,744.61 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.34 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,286.94 จุด