เอเอฟพี - ชาวจังหวัดปาปัว ประมาณ 10,000 คน ชุมนุมประท้วงเรียกร้องเอกราชจากอินโดนีเซีย วันนี้ (2) หลังเกิดเหตุซุ่มยิงประชาชนเสียชีวิต 4 ราย ซึ่งตำรวจอ้างว่าเป็นน้ำมือของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน ผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยกับเอเอฟพี
ผู้ประท้วงในเมืองจายาปุระ เมืองเอกของจังหวัดปาปัว พากันร้องตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาปัว” และต้องการให้ทหารอินโดนีเซียถอนกำลังออกจากพื้นที่ ซึ่งเกิดขบวนการกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ไม่เข้มข้น ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960
วันนี้ ยังมีการประท้วงในเมืองติมิกะ (Timika) เมืองทางใต้ในจังหวัดปาปัว และกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชาชนหลายร้อยคนเดินขบวนสนับสนุนการทำประชามติ เรียกร้องเอกราชให้กับปาปัว ในทำนองเดียวกับที่ติมอร์ตะวันออกเคยได้รับ เมื่อปี 1999
ตำรวจปราบจลาจลติดอาวุธประมาณ 700 นาย ได้เข้าประจำการในเมืองจายาปุระ หลังมีมือมืดซุ่มยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ราย เวลาเช้ามืดเมื่อวันจันทร์ (1 ส.ค.) มีการปิดถนน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงเข้าถึงสถานที่ราชการ แม้แกนนำจะระบุว่า ได้รับอนุญาตให้จัดการชุมนุมได้ก็ตาม
มาโก ตัมบูนี ผู้ประสานงานการประท้วง กล่าวว่า “เราขอเรียกร้องการทำประชามติ นี่ไม่ใช่ปัญหาของปาปัว หรือปัญหาของอินโดนีเซีย มันเป็นปัญหาระดับนานาชาติ เราต้องการเอกราช”
หลังเหตุการณ์ซุ่มยิง ตำรวจอินโดนีเซียกล่าวหากลุ่มกบฏจากขบวนการปาปัวเสรี (โอพีเอ็ม) กรณีการซุ่มยิงวานนี้ โดยระบุว่า พบธงของกลุ่มกบฏอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม แลมเบิร์ต เปกีกีร์ หัวหน้านักรบขบวนการปาปัวเสรี ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่า การสังหารชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ 4 รายวานนี้ เป็นการกระทำของทหาร เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการของบประมาณจากทางการ
ทั้งนี้ กลุ่มกบฏชนเผ่าพื้นเมืองเมลานีเซียดังกล่าว มักใช้อาวุธจำพวกธนูในกำลังต่อสู้ หวังแบ่งแยกดินแดนจากทางการอินโดนีเซีย เพื่อยุติการกดขี่และการรีดนาทาเร้นชาวปาปัว โดยทหารอินโดนีเซียถูกกล่าวหามายาวนาน กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อพลเรือนชาวปาปัว อีกทั้งปัญหาการคอร์รัปชันในธุรกิจเหมืองแร่ และการตัดไม้ทำลายป่า
อย่างไรก็ตาม นักข่าวไม่สามารถยืนยันสถานการณ์ตามข้อกล่าวหาได้ง่ายดายนัก เนื่องจากทั้งนักข่าว และนักสิทธิมนุษยชนต่างประเทศ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งๆ ที่ทางการอินโดนีเซียรับประกันหนักแน่นว่า ข้อโต้แย้งของกบฏปาปัวไม่มีน้ำหนัก