เอเอฟพี - อาณาจักรสื่อ นิวส์คอร์ป ของ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก เจอมรสุมอีกระลอก หลังคณะกรรมการคุ้มครองการแข่งขันและผู้บริโภคออสเตรเลีย (เอซีซีซี) หยิบยกประเด็นการผูกขาดขึ้นมายับยั้งคำขอซื้อกิจการเคเบิลทีวีท้องถิ่น โดยบริษัทที่ นิวส์คอร์ป ถือหุ้นอยู่
ถ้อยแถลงของ เอซีซีซี อาจทำให้ นิวส์คอร์ป และ เมอร์ด็อก สูญเสียโอกาสทางธุรกิจอีกครั้ง หลังจากที่หมดสิทธิ์รับสัมปทานโทรทัศน์ดาวเทียม บีสกายบี ในอังกฤษเพราะคดีดักฟังโทรศัพท์มาแล้ว
ฟ็อกซ์เทล (Foxtel) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกที่ นิวส์คอร์ป ถือหุ้นอยู่ 25 เปอร์เซ็นต์ เสนอซื้อกิจการเคเบิลทีวีคู่แข่ง ออสตาร์ (Austar) ด้วยวงเงิน 2,500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 8 หมื่นล้านบาท) เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมเขตชนบทของออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม เอซีซีซี แถลงว่า การควบรวมกิจการจะปิดกั้นการแข่งขันภายในตลาดโทรทัศน์แบบเสียค่าบริการ, สื่อภาพ/เสียง และระบบโทรคมนาคมของออสเตรเลีย
“ฟ็อกซ์เทล และ ออสตาร์ เป็นผู้ให้บริการเคเบิลทีวีเพียง 2 รายหลักในออสเตรเลีย หากรวมกิจการกันย่อมเป็นการผูกขาดตลาด” คำชี้แจงจาก เอซีซีซี ระบุ
ทั้งนี้ เอซีซีซี จะออกคำตัดสินอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ทว่าคำแถลงที่ออกมาก็ถือเป็นผลเสียอย่างยิ่งต่อ ฟ็อกซ์เทล ซึ่งมีบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ เทลสตรา (Telstra) เป็นผู้ถือหุ้นหลัก 50 เปอร์เซ็นต์
แกรเม แซมมูเอล ประธาน เอซีซีซี ยืนยันว่า คำตัดสินที่ประกาศไปไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวการดักฟังโทรศัพท์ในอังกฤษแม้แต่น้อย
ถ้อยแถลงของ เอซีซีซี อาจทำให้ นิวส์คอร์ป และ เมอร์ด็อก สูญเสียโอกาสทางธุรกิจอีกครั้ง หลังจากที่หมดสิทธิ์รับสัมปทานโทรทัศน์ดาวเทียม บีสกายบี ในอังกฤษเพราะคดีดักฟังโทรศัพท์มาแล้ว
ฟ็อกซ์เทล (Foxtel) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกที่ นิวส์คอร์ป ถือหุ้นอยู่ 25 เปอร์เซ็นต์ เสนอซื้อกิจการเคเบิลทีวีคู่แข่ง ออสตาร์ (Austar) ด้วยวงเงิน 2,500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 8 หมื่นล้านบาท) เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมเขตชนบทของออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม เอซีซีซี แถลงว่า การควบรวมกิจการจะปิดกั้นการแข่งขันภายในตลาดโทรทัศน์แบบเสียค่าบริการ, สื่อภาพ/เสียง และระบบโทรคมนาคมของออสเตรเลีย
“ฟ็อกซ์เทล และ ออสตาร์ เป็นผู้ให้บริการเคเบิลทีวีเพียง 2 รายหลักในออสเตรเลีย หากรวมกิจการกันย่อมเป็นการผูกขาดตลาด” คำชี้แจงจาก เอซีซีซี ระบุ
ทั้งนี้ เอซีซีซี จะออกคำตัดสินอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ทว่าคำแถลงที่ออกมาก็ถือเป็นผลเสียอย่างยิ่งต่อ ฟ็อกซ์เทล ซึ่งมีบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ เทลสตรา (Telstra) เป็นผู้ถือหุ้นหลัก 50 เปอร์เซ็นต์
แกรเม แซมมูเอล ประธาน เอซีซีซี ยืนยันว่า คำตัดสินที่ประกาศไปไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวการดักฟังโทรศัพท์ในอังกฤษแม้แต่น้อย