เอเอฟพี - ญี่ปุ่นประกาศระงับการส่งออกวัวจากจังหวัดฟูกูชิมะ วันนี้ (19) เนื่องจากความกังวลกรณีเนื้อวัวปนเปื้อนรังสีลุกลามไปทั่วประเทศ 4 เดือนหลังจากเกิดภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงผลาญชีวิตผู้คนจำนวนมาก
รัฐบาลกรุงโตเกียว มีคำสั่งถึง ยูเฮอิ ซาโตะ ผู้ว่าราชการจังหวัดฟูกูชิมะ “ห้ามส่งออกวัวภายในจังหวัดฟูกูชิมะ ไปยังโรงฆ่าสัตว์” จนกว่าจะสามารถรับรองความปลอดภัยของเนื้อวัวได้ ยูกิโอะ เอดาโนะ หัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงข่าว
ทั้งนี้ คาดกันว่า วัวประมาณ 650 ตัว ได้กินฟางหญ้าปนเปื้อนรังสีซีเซียม ก่อนถูกส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม วัวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดฟูกูชิมะ และถูกส่งไป 36 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น มีการคาดการณ์ว่า ประชาชนใน 31 จังหวัดได้บริโภคเนื้อวัวปนเปื้อนรังสีเข้าไปแล้ว
ฟางหญ้าที่เก็บไว้กลางแจ้ง ถูกมองว่า ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี ซึ่งโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิปลดปล่อยออกมา ต่อมาจึงพบว่า วัวในฟาร์มปศุสัตว์นอกรัศมี 20 กิโลเมตร จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ได้กินฟางหญ้าที่ปนเปื้อนรังสีเหล่านี้ โดยเมื่อวันจันทร์ (18) เจ้าหน้าที่จังหวัดฟูกูชิมะ ประกาศว่า ตรวจพบรังสีซีเซียมปริมาณ 157,000 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม ในฟางหญ้าของฟาร์มปศุสัตว์บางแห่ง ปริมาณดังกล่าวสูงกว่ามาตรฐานที่รัฐบาลตั้งไว้ถึง 520 เท่า
วันนี้ นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ได้แสดงความเสียใจต่อรัฐสภาแดนอาทิตย์อุทัยในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า “ผมรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดได้ ผมเสียใจมากครับ”
ส่วน มิชิฮิโกะ คาโนะ รัฐมนตรีเกษตรญี่ปุ่น แถลงว่า กระทรวงเกษตรจะดำเนินการตรวจสอบฟางข้าวสำหรับเลี้ยงวัวเนื้อทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน โฆษกเอดาโนะเ ปิดเผยว่า เจ้าของฟาร์มที่ได้รับผลกระทบจะได้รับค่าชดเชยความเสียหายจากประกาศระงับการส่งออกเนื้อครั้งนี้
การเปิดเผยว่าอาหารปนเปื้อนรังสีปะปนเข้าสู่ตลาดเพิ่มเติมดังกล่าว ได้ปลุกกระแสความตื่นกลัวเรื่องความปลอดภัยของอาหารขึ้นมาอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ มีการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีในอาหารหลายประเภท อาทิ ผักใบเขียว ชา นม และปลา ก่อนลุกลามมายังเนื้อวัวจนต้องประกาศระงับในวันนี้