เอเอฟพี - กรุงลูอันดา เมืองหลวงของแองโกลา ยังคงรักษาแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ด้วยการเป็นแหล่งน้ำมันอันอุดมสมบูรณ์ ที่ดึงดูดคนงานต่างชาติเข้าประเทศ ส่งผลให้ราคาสินค้ายิ่งสูงขึ้น ตามผลสำรวจที่มีการเผยแพร่ในวันนี้ (12)
ผลสำรวจของเมอร์เซอร์กรุ๊ป เกี่ยวกับอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกสำหรับนักธุรกิจต่างประเทศ เผยว่า กรุงลูอันดา เฉือนเอาชนะกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นให้ตกไปอยู่ที่ 2 ได้อย่างเฉียดฉิว
ขณะที่เมืองท่าการาจีของปากีสถาน ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดในโลก โดยค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตในเมืองนี้น้อยกว่ากรุงลูอันดาถึง 3 เท่าทีเดียว
แองโกลาเป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดคนงานจากต่างประเทศ ซึ่งดันราคาสินค้าที่สูงอยู่แล้ว ให้สูงยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการพึ่งพาการนำเข้า อีกทั้งการผลิตภายในประเทศก็ยังล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากผลของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 27 ปี
นอกจากนี้ กรุงเอ็นจาเมนา เมืองหลวงของชาด ซึ่งเป็นอีกเมืองในภูมิภาคแอฟริกา ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 3 เมืองที่มีค่าครองชีพแพงสุดในโลก โดยมีกรุงมอสโกตามมาเป็นอันดับ 4 และกรุงเจนีวาเป็นอันดับ 5
สำหรับกรุงปารีสตกจากอันดับ 10 ไปอยู่ในอันดับที่ 27 ขณะที่กรุงลอนดอนร่วงลงมาเพียง 1 ขั้นที่ลำดับ 18 ส่วนมหานครนิวยอร์ก ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 32 ของโลก แต่ถือเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดในสหรัฐฯ
ด้าน นาตาลี คอนสแตนติน-เมทราล์น นักวิจัยอาวุโสของเมอร์เซอร์ ชี้ว่า ในเมืองส่วนใหญ่ของยุโรปตะวันตกนั้น ค่าครองชีพสำหรับชาวต่างชาติยังค่อนข้างคงที่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
เธอเสริมว่า ขณะที่อีกหลายเมืองในภูมิภาคยุโรปตะวันตกหล่นจากอันดับเดิม เนื่องจากทุกเมืองนั้นถูกเปรียบเทียบกับนิวยอร์ก และราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นก็มีความสำคัญมากกว่าเมืองในยุโรปส่วนใหญ่
หลายเมืองในออสเตรเลียมีอันดับก้าวกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนได้จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้เปรียบ 14%
รายงานฉบับดังกล่าว ซึ่งเผยแพร่เป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยบริษัทต่างๆ ในการประเมินค่าใช้จ่ายอันเป็นรายได้สำหรับคนงานชาวต่างชาติ เมื่อเทียบกับราคาสินค้า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นของใช้ในครัวเรือน อาหาร และค่าขนส่งจากทั้งหมด 214 เมือง โดยใช้มหานครนิวยอร์กเป็นเมืองอ้างอิง
