เอเจนซี - รัฐมนตรีคลังยูโรโซนเมื่อวันจันทร์ (11) ให้คำมั่นต่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือกรีซและลูกหนี้อียูอื่นๆ ในความพยายามหยุดยั้งวิกฤตการเงินที่กำลังลุกลามสู่อิตาลี และสเปน อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงถึงแนวทางช่วยเหลือรอบใหม่แก่เอเธนส์
หลังการหารือยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงตามหลังอีกหนึ่งวันแห่งความยุ่งเหยิงในตลาดเงิน รัฐมนตรีคลังจาก 17 ชาติสมาชิกที่ใช้สกุลเงินร่วมกัน ได้ประกาศปกป้องเสถียภาพในเขตยูโรและให้คำมั่นต่อมาตรการใหม่ๆ ในระยะสั้น ทว่ายังไม่ได้กำหนดเส้นตายใดๆ
“เหล่ารัฐมนตรีพร้อมรับมาตรการต่างๆเพิ่มเติมที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพระบบของยูโรโซนสำหรับต้านทานความเสี่ยงที่ลุกลามใดๆ อันรวมไปถึงเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป ขยายเวลาชำระหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ” ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานยูโรโซนกล่าว
ตลาดหุ้นและพันธบัตรของอิตาลีถูกเทขายอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังความวิตกว่าอิตาลีซึ่งมีอัตราส่วนหนี้สูงสุดเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจในยูโรโซนรองจากกรีซนั้น อาจเป็นรายต่อไปที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้สาธารณะ ขณะเดียวกันแรงกดดันในตลาดส่วนหนึ่งเป็นผลมานายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี พยายามกดดันนายกุยลิโอ ทรีมอนติ รัฐมนตรีคลังให้ลาออกจากตำแหน่งหลังเขาสนับสนุนให้มีการปรับลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมากเพื่อควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม อิตาลี ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยูโรโซน มีความสามารถหลบหลีกชะตากรรมเดียวกับกรีซ ไอร์แลนด์และโปรตุเกสที่ถูกบีบให้รับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ เพราะว่าพวกเขามีการขาดดุลงบประมาณเพียงเล็กน้อยประกอบกับตลาดสตราสารหนี้ส่วนใหญ่อยู่ในมือนักลงทุนภายในประเทศ
รัฐมนตรียูโรโซนไม่ได้บ่งชี้ว่าพวกเขาจะสามารถทะลายทางตันต่อแนวทางที่ธนาคาร ผู้ค้ำประกันและกองทุนอื่นๆ ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในกองทุนช่วยเหลือกรีซรอบถัดไปนี้อย่างไร กระนั้นก็ตามพวกเขาพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อเสนอแนวทางโปรแกรมช่วยเหลือกรีซระลอกใหม่ สำหรับลดภาระหนี้กว่า 3.4 แสนยูโรหรือเกือบ 160 เปอร์เซนต์ของงบประมาณประจำปีและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
ฌอง-โคลด จุงเกอร์ แถลงต่อผู้สื่อข่าวด้วยว่าเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าภาคเอกชนจะเกี่ยวข้องกับเงินกู้รอบใหม่นี้ด้วยและการเจรจาถึงแนวทางการให้กู้ยืมจะได้บทสรุปเร็วๆ นี้ “หากน้ำหนักหนี้สาธารณะของกรีซลดลง หากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและมีการขยายเวลาชำระหนี้ บางทีนี่อาจช่วยกรีซได้” เขากล่าว
แม้ในถ้อยแถลงของอียูไม่ได้พาดพิงอย่างเจาะจงถึงทางเลือกใด แต่เหล่ารัฐมนตรีคลังกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการซื้อหนี้กรีซคืนหรือให้ภาคเอกชนแลกเปลี่ยนเป็นตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อให้หนี้ของกรีซมีความยั่งยืนมากขึ้น
หลังการหารือยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงตามหลังอีกหนึ่งวันแห่งความยุ่งเหยิงในตลาดเงิน รัฐมนตรีคลังจาก 17 ชาติสมาชิกที่ใช้สกุลเงินร่วมกัน ได้ประกาศปกป้องเสถียภาพในเขตยูโรและให้คำมั่นต่อมาตรการใหม่ๆ ในระยะสั้น ทว่ายังไม่ได้กำหนดเส้นตายใดๆ
“เหล่ารัฐมนตรีพร้อมรับมาตรการต่างๆเพิ่มเติมที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพระบบของยูโรโซนสำหรับต้านทานความเสี่ยงที่ลุกลามใดๆ อันรวมไปถึงเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป ขยายเวลาชำระหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ” ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานยูโรโซนกล่าว
ตลาดหุ้นและพันธบัตรของอิตาลีถูกเทขายอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังความวิตกว่าอิตาลีซึ่งมีอัตราส่วนหนี้สูงสุดเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจในยูโรโซนรองจากกรีซนั้น อาจเป็นรายต่อไปที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้สาธารณะ ขณะเดียวกันแรงกดดันในตลาดส่วนหนึ่งเป็นผลมานายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี พยายามกดดันนายกุยลิโอ ทรีมอนติ รัฐมนตรีคลังให้ลาออกจากตำแหน่งหลังเขาสนับสนุนให้มีการปรับลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมากเพื่อควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม อิตาลี ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยูโรโซน มีความสามารถหลบหลีกชะตากรรมเดียวกับกรีซ ไอร์แลนด์และโปรตุเกสที่ถูกบีบให้รับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ เพราะว่าพวกเขามีการขาดดุลงบประมาณเพียงเล็กน้อยประกอบกับตลาดสตราสารหนี้ส่วนใหญ่อยู่ในมือนักลงทุนภายในประเทศ
รัฐมนตรียูโรโซนไม่ได้บ่งชี้ว่าพวกเขาจะสามารถทะลายทางตันต่อแนวทางที่ธนาคาร ผู้ค้ำประกันและกองทุนอื่นๆ ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในกองทุนช่วยเหลือกรีซรอบถัดไปนี้อย่างไร กระนั้นก็ตามพวกเขาพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อเสนอแนวทางโปรแกรมช่วยเหลือกรีซระลอกใหม่ สำหรับลดภาระหนี้กว่า 3.4 แสนยูโรหรือเกือบ 160 เปอร์เซนต์ของงบประมาณประจำปีและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
ฌอง-โคลด จุงเกอร์ แถลงต่อผู้สื่อข่าวด้วยว่าเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าภาคเอกชนจะเกี่ยวข้องกับเงินกู้รอบใหม่นี้ด้วยและการเจรจาถึงแนวทางการให้กู้ยืมจะได้บทสรุปเร็วๆ นี้ “หากน้ำหนักหนี้สาธารณะของกรีซลดลง หากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและมีการขยายเวลาชำระหนี้ บางทีนี่อาจช่วยกรีซได้” เขากล่าว
แม้ในถ้อยแถลงของอียูไม่ได้พาดพิงอย่างเจาะจงถึงทางเลือกใด แต่เหล่ารัฐมนตรีคลังกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการซื้อหนี้กรีซคืนหรือให้ภาคเอกชนแลกเปลี่ยนเป็นตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อให้หนี้ของกรีซมีความยั่งยืนมากขึ้น