เอเอฟพี - ชินทาโร อิชิฮาระ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว ยืนยันว่า พลังงานนิวเคลียร์ยังมีความจำเป็นสำหรับญี่ปุ่น แม้ผู้ที่เข็ดขยาดกับวิกฤตโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ จะต่อต้านก็ตาม ทั้งยังเสนอให้รัฐบาลสะสมอาวุธนิวเคลียร์ไว้คานอำนาจประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีเหนือ, จีน และ รัสเซีย ด้วย
นักการเมืองหัวอนุรักษ์ วัย 78 ปี ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยมจัดและมักจะแสดงความเห็นในเชิงยั่วยุคนนี้ บอกว่า “ตราบใดที่เรามีการจัดการอย่างเหมาะสม เชื้อเพลิงนิวเคลียร์จะเป็นแหล่งพลังงานที่ราคาถูกมาก แต่ผมคิดว่าปฏิกิริยาต่อต้านน่าจะแรงขึ้นในช่วงเลือกตั้ง”
อิชิฮาระ ยังอ้างอิงถึงฝรั่งเศส ซึ่งพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ว่า “ทำไมญี่ปุ่นจะเอาอย่างฝรั่งเศสไม่ได้?”
นับแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคม เป็นต้นมา ญี่ปุ่นเปิดใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพียง 19 แห่งจากทั้งหมด 54 แห่ง ก่อให้เกิดภาวะขาดแคลนพลังงานในประเทศซึ่งมีทรัพยากรน้อย และต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าถึงร้อยละ 30
อิชิฮาระ เรียกคะแนนนิยมจากประชาชนด้วยนโยบายเชิงอนุรักษ์ เช่น ห้ามนำยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซลเข้ามาในเมืองหลวง, ส่งเสริมนโยบายบรรเทาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ, เสนอระบบการค้าคาร์บอน และวางแผนปลูกต้นไม้ในกรุงโตเกียวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ผู้ว่าฯโตเกียวรายนี้ บอกว่า ภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยังไม่สามารถพึ่งพาพลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างเต็มที่
“พลังงานชีวมวลมีราคาสูงเกินไปสำหรับญี่ปุ่น พลังงานแสงอาทิตย์ก็ไม่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ส่วนพลังงานลมก็ยังไม่มีประสิทธิภาพพอ เพราะประเทศเรามีฟ้าผ่าบ่อย ซึ่งจะทำให้เครื่องกำเนิดพลังงานลมเสียหาย” อิชิฮาระ เผย พร้อมกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่กรุงโตเกียวจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าน้ำมัน และมีค่าใช้จ่ายพอๆกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยอาจต้องเวนคืนพื้นที่บริเวณอ่าวโตเกียว
อิชิฮาระ กล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นควรมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ต้านทานอำนาจเพื่อนบ้านที่อันตรายอย่างเกาหลีเหนือ, จีน และรัสเซีย ทว่าไม่ควรนำออกมาใช้จริง
“แค่เราใช้คอมพิวเตอร์จำลองการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ก็จะทำให้สถานะของญี่ปุ่นในเวทีโลกเปลี่ยนไป” เขากล่าว