xs
xsm
sm
md
lg

ปธน.อิเหนาตั้ง “น้องเมีย” เป็น ผบ.ทบ. คาดเตรียมสืบทอดอำนาจการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน (ซ้าย) จับมือกับ พล.อ.ปราโมโน เอ็ดดี วิโบโว หลังเสร็จสิ้นพิธีแต่งตั้งตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพบกคนใหม่แห่งอินโดนีเซีย วันนี้ (30)
เอเอฟพี - ประธานธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน แห่งอินโดนีเซีย แต่งตั้งน้องชายของภริยาขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพบกคนใหม่ วันนี้ (30) แม้กลุ่มสิทธิมนุษชนตราหน้านายทหารรุ่นใหญ่รายนี้ไว้ ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในติมอร์ตะวันออกช่วงปี 1999

ผู้นำอินโดนีเซียประกาศแต่งตั้ง พล.ท.ปราโมโน เอ็ดดี วิโบโว ขึ้นเป็น พลเอกพร้อมตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก สื่อมวลชนต่างตั้งคำถามว่า ยุทโธโยโน ผู้เป็นอดีตนายพลเช่นกัน กำลังเตรียมที่เตรียมทางให้ วิโบโว น้องชายภริยา ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปใช่หรือไม่

หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์รายงานว่า วิโบโว นายพลทหารวัย 56 ปี สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารเมื่อปี 1980 ก่อนเข้าบัญชาการหน่วยโคปัสซุส (Kopassus) กองกำลังรบพิเศษแห่งทัพอินโดนีเซีย เมื่อปี 1999 นอกจากนี้ เขายังเคยเป็นผู้ช่วยของอดีตประธานาธิบดีเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี

ปัจจุบัน วิโบโว เป็นผู้บัญชาการกองกำลังสำรองทางยุทธศาสตร์ และจะเข้ารับตำแหน่งต่อจาก พล.อ.จอร์จ โตยซุตตา ที่กำลังเกษียณอายุ

ทางการรายงานว่า วิโบโวได้รับการแต่งตั้งตามคำแนะนำของคณะกรรมมาธิการทหารระดับสูง ทว่ากลุ่มสิทธิมนุษยชนยังคงค้างคาใจเรื่องการละเมิดสิทธิ์จากเหตุการณ์สมัยที่ชาวติมอร์ตะวันออกลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชจากอินโดนีเซียเมื่อปี 1999

ฮาริส อัซฮาร์ นักเคลื่อนไหวจากคณะกรรมการบุคคลสูญหายและเหยื่อความรุนแรง แสดงความเห็นถึงการแต่งตั้งครั้งนี้ว่า วิโบโวเป็นผู้ต้องสงสัยว่าพัวพันกับเหตุบุกรุกบ้านของหัวหน้าบาทหลวงรายหนึ่ง ผู้เป็นปากเป็นเสียงรณรงค์ให้ทหารอิเหนายุติการใช้ความรุนแรงในติมอร์ตะวันออก ในกรุงดิลี

“สถานภาพของเขาไม่ชัดเจน เราไม่รู้แน่ว่าเขาพัวพันกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ เนื่องจากทางการไม่ยอมลงมาสืบสวน” ฮาริส อัซฮาร์ ให้ความเห็นกับเอเอฟพี “แต่การแต่งตั้งนี้ไม่ต่างกับการเล่นพรรคเล่นพวก เพราะพี่เขยของเขา คือ ประธานาธิบดี ดูเหมือนว่าท่านประธานาธิบดีกำลังปูทางให้คนในครอบครัวปกครองประเทศต่อไป”

รัฐธรรมนูญอินโดนีเซียบัญญัติไว้ว่า ห้ามบุคคลดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 3 สมัยติดต่อกัน ส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2014 ซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน จะหมดสิทธิ์ลงชิงเก้าอี้ผู้นำ อย่างไรก็ตาม ผู้นำอิเหนาเคยกล่าวไว้ว่า ภริยาและบุตรชายของเขาจะไม่เข้ามาสืบทอดอำนาจทางการเมือง

ทั้งนี้ ยุทโธโยโนบริหารประเทศมาแล้ว 2 สมัย โดยให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่า จะปราบปรามปัญหาคอร์รัปชันที่เกาะกินอินโดนีเซียมายาวนาน แต่ความตั้งใจของเขาก็มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของบรรดา ส.ส. และตำรวจ เป็นอุปสรรคสำคัญ

ผลการสำรวจความเห็นประชาชนอิเหนาในสัปดาห์นี้พบว่า คะแนนนิยมตัวยุทโธโยโน ลดลงต่ำกว่า 50 เปอร์เซนต์เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาเข้ามาบริหารประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น