ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ดีเจอ้อม” มอบตัวที่เชียงใหม่แล้ว พร้อมยื่น 1 แสนประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาขอไปสู้กันในศาล ยันไม่เล่นการเมืองแต่จะเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดงต่อ ที่ผ่านมาหลบในประเทศไม่ได้ไปไหน ด้าน “เพชรวรรต” ปูด “เพื่อไทย” เตรียมตั้ง “เพื่อธรรม” เป็นพรรคอะไหล่ เหตุผลโพลชี้เลือกตั้งชนะขาดแน่ได้เกิน 300 เสียง แต่จะโดนยุบพรรคเล่นงาน เลยเตรียมตั้งพรรคไว้รองรับ ส.ส.ล่วงหน้า
วันนี้ (28 มี.ค.) นางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้ามอบตัวตามหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 อีกจำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ
การเดินทางมามอบตัวของนางกัญญาภัคในครั้งนี้ ถือเป็นคนที่ 3 ต่อจากนายเพชรวรรต และนายภูมิใจ ไชยยา หรือดีเจต้อม ที่เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสู้คดี ภายหลังจากได้หลบหนีหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเดือนเมษายน 2553 จนกระทั่งรัฐบาลประกาศเตรียมการยุบสภาและจัดการเลือกตั้ง ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีการจับกุมอยู่ทยอยเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสู้คดี
ทั้งนี้ นางกัญญาภัค มีหมายจับที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง 2 คดี ได้แก่คดีเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่บุกรุกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2553 จำนวน 10 ข้อหา และคดีหมิ่นประมาท พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 1 ข้อหา โดยนางกัญญาภัคได้ให้การปฏิเสธและขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท
ภายหลังจากการเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิงแล้ว รายงานข่าวแจ้งว่า นายเพชรวรรต และนางกัญญาภัค พร้อมด้วยกลุ่มผู้สนับสนุน ได้เดินทางต่อไปที่สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมอบตัวในคดีบุกรุกบ้านพักของ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการอิสระ ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด และหมิ่นประมาท ดร.เจิมศักดิ์ ซึ่งทั้งคู่ได้เคยมอบตัวและได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวแล้ว
แต่ต่อมาไม่ได้เข้ารายงานตัว เนื่องจากหลังจากนั้นได้หลบหนีไปในช่วงร่วมชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ที่ถูกสลายการชุมนุม จนกระทั่งถูกออกหมายจับ และเพิ่งกลับมามอบตัวในครั้งนี้ โดยหลังจากมอบตัวแล้วจะเดินทางต่อไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอประกันตัวในคดีดังกล่าวนี้อีกครั้งหนึ่ง
นางกัญญาภัคกล่าวถึงการเดินทางมามอบตัวในครั้งนี้ว่า ได้ปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา โดยจะเตรียมตัวสู้คดีในชั้นศาลตามกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมในขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นยังคงอาศัยอยู่ในประเทศ โดยอาศัยการทำงานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อหาเลี้ยงชีพเนื่องจากไม่มีรายได้
ส่วนการเคลื่อนไหวภายหลังการเข้ามอบตัวแล้วนั้น นางกัญญาภัคกล่าวว่า ตนเองจะไม่ลงเล่นการเมือง แต่จะเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และคนเสื้อแดงต่อไป โดจะเน้นไปที่การส่งเสริมความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม รวมทั้งอาจมีการเคลื่อนไหวในด้านอื่นๆ อย่างเช่นเรื่องประเพณีวัฒนธรรมด้วย รวมทั้งจะมีการออกไปพบปะชาวบ้านเพื่อช่วยสนับสนุนผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้
“ตั้งใจว่าจะออกไปพบปะชาวบ้านเพื่อบอกให้ช่วยกันเลือกคนดีๆ เข้ามาบริหารประเทศ เพราะทุกวันนี้มีแต่คนไม่ดี ไม่มีความสามารถมาบริหาร จะให้รัฐบาลที่จะซื้อไข่ทีก็ต้องชั่งกิโลที มาบริหารงานอีกนั้นก็คงจะไม่ใช่”
สำหรับการเข้ามอบตัวในครั้งนี้ของนางกัญญาภัคนั้น พ.ต.อ.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง กล่าวว่า เป็นการเข้ามอบตัวในคดีบุกรุกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2553 และคดีหมิ่นประมาทพลตำรวจเอกสมคิด บุญถนอม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยคดีนี้มีผู้ต้องหาร่วมในคดีหลายคนและยังเข้ามอบตัวไม่ครบทุกคน อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นปัญหาอุปสรรคในการทำสำนวนเพื่อส่งฟ้องแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนของนางกัญญาภัคนั้น คาดว่าน่าจะทำสำนวนแล้วเสร็จและส่งฟ้องได้ในช่วงเวลาประมาณ 12 วัน
ด้าน นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ทำการประกาศรับสมัครสมาชิกเพื่อเตรียมก่อตั้ง “พรรคเพื่อธรรม” เนื่องจากมีการประเมินกันว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้หากดูจากผลการสำรวจต่างๆ แล้ว พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งโดยได้รับคะแนนเสียงเกิน 300 เสียง
แต่หากผลการเลือกตั้งออกมาในลักษณะดังกล่าวจะมีความพยายามเพื่อยุบพรรคเพื่อไทย ดังนั้นจึงมีการเตรียมการตั้งพรรคเพื่อธรรมขึ้น เพื่อเป็นพรรคอะไหล่สำรอง กรณีที่พรรคเพื่อไทยถูกยุบ โดยเบื้องต้นตั้งเป้าให้ได้สมาชิกประมาณ 5,000 คนจากทั่วประเทศ รวมทั้งเตรียมที่จะยื่นจดทะเบียนขอจัดตั้งพรรคการเมืองกับคณะกรรมการการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค
“เรื่องนี้มีการหารือกันกับเบื้องบนไว้แล้ว หากพรรคเพื่อไทยถูกยุบก็จะย้าย ส.ส.มาสังกัดพรรคเพื่อธรรมแทน แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ถูกยุบ พรรคเพื่อธรรมก็จะเป็นพรรคสำรองต่อไป”
