เอเอฟพี - ซาอุดีอาระเบียประกาศวานนี้ (29) ว่าจะไม่อนุมัติใบอนุญาตทำงานให้แรงงานจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์อีกต่อไป หลังเกิดกรณีพิพาทกับทั้งสองประเทศ โดยอินโดนีเซียได้ประณามกรุงริยาดกรณีประหารชีวิตแม่บ้านอิเหนาด้วยการตัดศีรษะ ส่วนฟิลิปปินส์ต้องการให้ขึ้นเงินเดือนแม่บ้านชาวตากาล็อกเกือบเท่าตัว
สำนักข่าวเอสพีเอของรัฐรายงานคำแถลงของกระทรวงแรงงงานซาอุดีอาระเบีย ว่า “จะหยุดออกวีซาสำหรับทำงานให้กับแรงงานจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ โดยจะมีผลทันทีในวันเสาร์ (2 ก.ค.) นี้” เนื่องจาก “เงื่อนไขที่ทั้งสองประเทศได้ประกาศออกมา”
“การตัดสินใจของกระทรวงแรงงานครั้งนี้ หมายรวมถึงการเปิดช่องทางใหม่ๆ เพื่อรับแรงงานจากแหล่งอื่นๆ” ฮัตตาบ บิน ซาเลห์ อัล-อันซี โฆษกกระทรวงแรงงานซาอุฯ แถลงด้วยภาษาอังกฤษ
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน แห่งอินโดนีเซีย ได้ประณามทางการซาอุดีอาระเบีย กรณีการประหารชีวิตแม่บ้านอิเหนารายหนึ่งด้วยการตัดศีรษะ พร้อมกันนี้ ผู้นำอิเหนาได้กล่าวหากรุงริยาดว่า “ทำลายธรรมเนียมและมารยาท” ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
รูยาติ บินตี ซาปูบี แม่บ้านชาวอิเหนาวัย 54 ปี ถูกบั่นคอเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน หลังจากศาลซาอุดีอาระเบียพิพากษาว่าเธอมีความผิดฐานฆาตกรรมนายจ้าง ทันทีที่ทราบเรื่อง ทางการอินโดนีเซียได้เรียกตัวทูตประจำซาอุฯ กลับประเทศ และออกประกาศระงับการส่งแรงงานไปยังซาอุดีอาระเบียชั่วคราว แม้จะมีแรงงานอิเหนาจำนวนนับล้านคนประกอบอาชีพแม่บ้านและกรรมกรอยู่ที่นั่น
นอกเหนือจากอินโดนีเซียแล้ว กรุงริยาดยังมีข้อพิพาทเรื่องแรงงานกับทางฟิลิปปินส์ กรณีค่าแรงของแม่บ้านตากาล็อกในซาอุดีอาระเบีย ช่วงต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลฟิลิปปินส์เคยร้องขอคำมั่นสัญญาจากซาอุดีอาระเบียว่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้กับแม่บ้านตากาล็อก แต่ข้อเรียกร้องดังกล่าวกลับถูกปฏิเสธ
รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องการให้แรงงานของตนในซาอุดีอาระเบียได้รับค่าแรง 400 ดอลลาร์ (ประมาณ 12,000 บาท) ต่อเตือน และสวัสดิการตามหลักมนุษยชน แต่ทางการซาอุฯ เสนอค่าแรงขั้นต่ำเพียง 210 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,500 บาท) เท่านั้น เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานฟิลิปปินส์ให้ข้อมูลกับเอเอฟพีเมื่อเดือนพฤษภาคม
อนึ่ง กลุ่มสิทธิมนุษยชนรายงานว่าแรงงานชาวเอเชียส่วนใหญ่ในซาอุดีอาระเบียมักถูกทำร้ายร่างกาย และเอารัดเอาเปรียบทางการเงิน เนื่องจากแรงงานกลุ่มนี้มีฐานะยากจน ประกอบกับไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน
