เอเจนซี - ชาวญี่ปุ่นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 60 ต้องการเห็นนายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ลาออกภายในเดือนสิงหาคม ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแรงกดดันจากชาวแดนอาทิตย์อุทัย ที่ต้องการให้ คัง รักษาสัญญาว่าจะสละตำแหน่งผู้นำประเทศ ผลสำรวจเผยวันนี้(27)
หลังได้รับเสียงตำหนิอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการตอบสนองที่ล่าช้าต่อเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคม คัง ให้สัญญาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเร็วๆนี้ ซึ่งช่วยให้เขารอดพ้นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาได้ ทว่าก็ยังไม่ระบุแน่นอนว่าจะลาออกเมื่อใด
ผลสำรวจโดยหนังสือพิมพ์ นิกเกอิ บิสซิเนส เดลี พบว่า ชาวญี่ปุ่นร้อยละ 42 ต้องการให้ คัง ลาออกโดยเร็วที่สุด ซึ่งสูงกว่าผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคมถึง 2 เท่า ส่วนอีกร้อยละ 18 คิดว่านายกรัฐมนตรีควรลาออกช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม ซึ่งจะสิ้นสุดการประชุมสภาสมัยปัจจุบัน
คัง ระบุว่า ต้องการปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะประกาศใช้กฎหมายที่ช่วยให้รัฐบาลสามารถออกพันธบัตร ซึ่งจะครอบคลุมวงเงินร้อยละ 40 ของงบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีหน้า รวมถึงงบประมาณพิเศษอีกเล็กน้อยเพื่อช่วยฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยสึนามิ และมาตรการส่งเสริมพลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
พรรคฝ่ายค้านซึ่งครองที่นั่งในสภาสูง มีทีท่าสนับสนุนให้ร่างงบประมาณพิเศษสำหรับฟื้นฟูประเทศผ่านไปได้ด้วยดี ทว่ายังต้องการแก้ไขแผนรายจ่ายบางส่วนของรัฐบาล เพื่อแลกกับการสนับสนุนกฎหมายพันธบัตร และยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับกฎหมายพลังงานซึ่งนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เนื่องจากภาคธุรกิจกังวลว่าจะทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น
หนังสือพิมพ์ โยมิอุริ ชิมบุน รายงานว่า ผู้บริหารพรรคดีพีเจ 6 คน รวมถึง ยูกิโอะ เอดาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ คัตสุยะ โอกาดะ เลขาธิการพรรค บรรลุข้อตกลงในการประชุมวานนี้ (26) ว่า คังควรจะลาออกระหว่างสมัยประชุมปัจจุบัน
