เอเอฟพี - อัลกออิดะห์ประกาศแต่งตั้ง อัยมาน อัลซอวาฮีรี เป็นแกนนำเครือข่ายคนใหม่ แทนอุซามะ บิน ลาดิน ผู้นำซึ่งล่วงลับไปแล้ว พร้อมลั่นจะไม่มีวันเลิกล้มการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านสหรัฐฯ และอิสราเอลเป็นอันขาด
อัลกออิดะห์แถลงผ่านเว็บไซต์อิสลามิสต์แห่งหนึ่งว่า "หลังการปรึกษาหารือกัน กองบัญชาการอัลกออิดะห์ขอประกาศแต่งตั้งเชกห์อัยมาน อัลซอวาฮีรีเป็นหัวหน้ากลุ่ม"
ซอวาฮีรี แกนนำหมายเลข 2 ของอัลกออิดะห์ ได้รับการคาดหมายว่าจะขึ้นดำรงตำแหน่งนี้แทนบิน ลาดิน ซึ่งถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ บุกสังหารคาบ้านพักลับๆ ในปากีสถานเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ภายใต้การนำของซอวาฮีรี เครือข่ายอัลกออิดะห์จะดำเนินการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อต่อต้านสหรัฐฯ และอิสราเอลต่อไป
"เราแสวงหา ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า เพื่อเรียกหาศาสนาแห่งความเป็นจริง และกระตุ้นให้ชาติของเราต่อสู้ ด้วยการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านผู้บุกรุกซึ่งละทิ้งศาสนา ด้วยศีรษะของพวกเขา ทั้งอเมริกา และผู้รับใช้ อย่างอิสราเอล และใครก็ตามที่สนับสนุนพวกนั้น"
แถลงการณ์นี้ยังเสริมว่า การต่อสู้จะดำเนินต่อไปจนกว่าศัตรูที่เข้าไปรุกรานจะออกไปจากดินแดนของอิสลามให้หมด
นอกจากนี้ อัลกออิดะห์ยังประกาศสนับสนุนการก่อจลาจลของชาวมุสลิมเพื่อโค่นล้มผู้นำเผด็จการ และคอรัปชัน ซึ่งทำให้ประเทศชาติเดือดร้อน โดยหมายถึงการปฏิวัติในหลายประเทศของตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
สำหรับอัลซอวาฮีรี ชาวอียิปต์ วัย 60 ปี ก็เหมือนกับบิน ลาดิน ซึ่งต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ นับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศสงครามต่อต้านการก่อการร้าย หลังเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001
ในขณะนี้ ซอวาฮีรีกลายเป็นบุคคลที่ทางการสหรัฐฯ ต้องการตัวมากที่สุด เขาเคยติดคุก 3 ปีในอียิปต์โทษฐานกระด้างกระเดื่อง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีส่วนร่วมในการลอบสังหารประธานาธิบดีอันวาร์ ซาดัตของอียิปต์เมื่อปี 1981 และการสังหารหมู่นักท่องเที่ยวในเมืองลุกซอร์เมื่อปี 1997 ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต
ดังนั้น เขาจึงหลบหนีออกจากประเทศในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 ไปยังซาอุดีอาระเบีย จากนั้นจึงย้ายไปอยู่เมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ก่อนจะเปลี่ยนสถานที่ไปยังอัฟกานิสถาน ซึ่งเขาได้เข้าร่วมกับกองกำลังของบิน ลาดิน