เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – บรรดาญาติมิตรและนักหนังสือพิมพ์จำนวนหลายร้อยคน เมื่อวันพุธ (1) ได้เข้าร่วมพิธีฝังศพ ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด หัวหน้าโต๊ะข่าวปากีสถาน ของเอเชียไทมส์ออนไลน์ ผู้ซึ่งได้บอกกล่าวกับหลายๆ ฝ่ายอย่างชัดเจนว่ากำลังถูกข่มขู่คุกคามจากหน่วยงานข่าวกรองทรงอำนาจในปากีสถาน ก่อนที่เขาจะหายตัวไปและกลายเป็นศพที่อยู่ในสภาพถูกทรมานจนเสียชีวิต
ชาห์ซาด ซึ่งมีอายุได้ 40 ปี และมีบุตรรวม 3 คน ได้หายตัวไปหลังออกจากบ้านพักในกรุงอิสลามาบัด เพื่อเดินทางไปออกรายการทอล์กโชว์ทางโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ (29 พ.ค.) 2 วันหลังจากที่เขาเขียนบทความเผยแพร่ทางเอเชียไทมส์ออนไลน์ ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่ามีพวกหัวรุนแรงในกองทัพเรือปากีสถานโยงใยพัวพันกับกลุ่มอัลกออิดะห์
พวกญาติพี่น้องของเขาเรียกร้องให้ทางการดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง แต่ยังไม่ได้กล่าวโทษประณามฝ่ายใดว่าเป็นตัวการสังหารเขา ทั้งนี้เมื่อ 5 ปีก่อน ชาห์ซาดก็เคยถูกพวกตอลิบานในอัฟกานิสถานจับเป็นตัวประกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ และถูกกล่าวหาโดยฝ่ายนั้นว่าเป็นสายลับ
ชาห์ซาดสร้างผลงานและชื่อเสียงให้ตนเองด้วยการเขียนรายงานข่าวเกี่ยวกับเครือข่ายอิสลามิสต์หัวรุนแรงที่มีอยู่มากมายหลายกลุ่มเหลือเกินในปากีสถาน และก่อนที่เขาจะหายตัวไปในคราวหลังสุดนี้ ได้เคยบอกกับพวกนักรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนว่า เขาถูกข่มขู่คุกคามโดยกรมประมวลข่าวกรองกลาง (Inter-Services Intelligence หรือ ISI) ของปากีสถาน
มีผู้พบศพของชาห์ซาดเมื่อวันอังคาร (31 พ.ค.) ในจุดที่อยู่ห่างจากกรุงอิสลามาบัดไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 150 กิโลเมตร โดยที่ตำรวจระบุว่ามีร่องรอยมากมายที่ชี้ว่าเขาคงจะถูกทรมาน
“สาเหตุของการตายคือการถูกทรมาน มีร่องรอยการถูกทรมานเป็นจำนวนมากตามร่างกายและใบหน้าของเขา” เป็นคำกล่าวของ อโศก กุมาร หนึ่งในคณะแพทย์ที่ดำเนินการชันสูตรศพของเขา ณ สถาบันแพทยศาสตร์ปากีสถาน ในกรุงอิสลามาบัด
ขณะที่แพทย์อีกผู้หนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า ปอดและตับของชาห์ซาดมีร่องรอยถูกทำร้ายจนเสียหายหนัก ขณะที่ลำตัวบวมพองและมีร่องรอยของการถูกทุบตีมากกว่า 15 แห่ง
งานฝังศพของเขาซึ่งจัดขึ้นที่ย่านซีวิว ในเมืองการาจีที่เป็นบ้านเกิดของเขา มีผู้เข้าร่วมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องและนักหนังสือพิมพ์
“พวกเราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไง” ฟาฮัด ซาลีม บุตรชายของเขาร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับไหล่ของอาคนหนึ่ง
ทางด้านสหพันธ์สหภาพนักหนังสือพิมพ์ปากีสถาน ประกาศไว้อาลัยให้แก่ชาห์ซาดเป็นเวลา 2 วัน และโฆษกผู้หนึ่งแจ้งว่า สมาชิกของสหพันธ์จะจัดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศในวันศุกร์(3 มิ.ย.) นี้
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน ก็ได้ออกคำแถลงประณามผู้ที่สังหารชาห์ซาด และบอกว่า การที่เขา “รายงานข่าวว่าด้วยการก่อการร้ายและประเด็นทางด้านข่าวกรองในปากีสถาน เป็นการนำแสงสว่างมาสู่ความยุ่งยากทั้งหลายซึ่งพวกสุดโต่งก่อให้เกิดขึ้นแก่เสถียรภาพของปากีสถาน”
รัฐมนตรีมหาดไทย เรห์มาน มาลิก ของปากีสถาน กล่าวยืนยันว่าได้ออกคำสั่งให้ตำรวจทำการสอบสวนคดีนี้อย่างเต็มที่ รวมทั้งสัญญาที่จะให้รางวัลเป็นมูลค่าร่วมๆ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ทว่าบรรดานักข่าวและกลุ่มสื่อมวลชนต่างบอกกันว่า การสอบสวนกรณีการสังหารนักหนังสือพิมพ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีการนำผลสอบออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนเลย และในคราวนี้พวกเขาก็แทบไม่คาดหวังว่าจะได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
องค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน แถลงว่าเวลานี้มีนักหนังสือพิมพ์ 16 คนแล้วที่ถูกสังหารในปากีสถานนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2010 เป็นต้นมา โดยที่ในดัชนีเสรีภาพสื่อมวลชนซึ่งองค์การนี้จัดทำขึ้นนั้น ปากีสถานอยู่ในอันดับ 151 จากจำนวน 178 ประเทศที่อยู่ในดัชนี
มีรายงานว่า ที่เมืองเปชาวาร์ ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน และเกิดเหตุโจมตีอย่างหนักหน่วงเป็นระลอกโดยมีการระบุว่าเป็นฝีมือของพวกตอลิบานและอัลกออิดะห์นั้น ปรากฏว่ามีนักหนังสือพิมพ์หลายสิบคนออกมาชุมนุมถือแผ่นป้ายเรียกร้องรัฐคุ้มครองให้ความปลอดภัยแก่สมาชิกผู้อยู่ในอาชีพนี้
ส่วนที่เมืองหลวงอิสลามาบัดก็มีนักหนังสือพิมพ์และนักเคลื่อนไหวภาคประชาชนประมาณ 100 คน ออกมาชุมนุมประท้วง และเรียกร้องให้รัฐบาลคุ้มครองนักหนังสือพิมพ์
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ชาห์ซาดเพิ่งเขียนรายงานเชิงสืบสวนเผยแพร่ในเอเชียไทมส์ออนไลน์ ระบุว่าเหตุการณ์โจมตีฐานทัพกองบินนาวีของปากีสถานในวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่พวกหัวรุนแรงมุ่งแก้แค้นการที่ทางการปากีสถานกวาดจับพวกนายทหารเรือซึ่งต้องสงสัยว่าพัวพันกับอัลกออิดะห์