เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธตอลิบานซึ่งมีทั้งจรวดและวัตถุระเบิด บุกโจมตีกองบินนาวีของกองทัพเรือปากีสถาน ใจกลางเมืองการาจี วานนี้(22) โดยสังหารนาวิกโยธินและเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนไป 12 นาย และทำลายเครื่องบินลาดตระเวนของสหรัฐฯไปอีก 2 ลำ
ปฏิบัติการอุกอาจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการปลิดชีพ อุซามะห์ บิน ลาดิน ผ่านพ้นไปเพียง 3 สัปดาห์ โดยเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์(22) กลุ่มติดอาวุธตอลิบานไม่ต่ำกว่า 20 คน ได้อาศัยความมืดบุกเข้าไปภายในฐานทัพอากาศ พีเอ็นเอส เมห์ราน ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการกองบินนาวีในเมืองการาจี จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งแม้จะผ่านไปนานกว่า 12 ชั่วโมงแล้ว ทว่าสถานการณ์ก็ยังไม่สงบลง และในช่วงรุ่งสางของวันนี้(23) หน่วยดับเพลิงปากีสถานก็ต้องเร่งดับไฟที่ลุกไหม้อยู่ภายในอาคารแห่งหนึ่งของฐานทัพ
เรห์มาน มาลิก รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยปากีสถาน ระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายลักลอบเข้าไปในฐานทัพผ่าน 3 ช่องทาง ซึ่งอยู่ติดกับเขตชุมชนของเมืองการาจี โดยเมืองแห่งนี้มีประชากรหนาแน่นถึง 16 ล้านคน และเป็นเมืองท่าที่ นาโต ใช้ขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปยังอัฟกานิสถาน
“กลุ่มก่อการร้ายยังคงยึดอาคารภายในกองบินนาวีไว้ได้ และยังยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา” มาลิก ให้สัมภาษณ์วันนี้(23)
“เราต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อปกป้องทรัพย์สิน และให้มีการตายเกิดขึ้นน้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้กลุ่มก่อการร้ายพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์” เขากล่าว
กลุ่มตอลิบานซึ่งยกระดับการก่อเหตุรุนแรงมาตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมซึ่ง บิน ลาดิน ถูกฆ่า ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีครั้งนี้แล้ว
“หลังจากที่ อุซามะห์ สละชีพ เราก็เตือนแล้วว่า จะโจมตีให้รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก” เอียะห์ซานุลเลาะห์ เอียะห์ซาน โฆษกกลุ่มตอลิบานให้สัมภาษณ์กับ เอเอฟพี ผ่านโทรศัพท์ โดไม่ระบุที่อยู่ของตน
“คนของเราที่อยู่ในกองบินนาวีล้วนเป็นมือระเบิดพลีชีพ พวกเขามีกันประมาณ 15-20 คน และถูกส่งเข้าไปปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างรัดกุม พวกเขาจะต่อสู้ได้นานถึง 1 สัปดาห์ จนกว่าจะสละชีวิต” เอียะห์ซานุลเลาะห์ กล่าว
ซัลมาน อาลี ผู้บัญชาการและโฆษกกองทัพเรือปากีสถาน ระบุว่า นาวิกโยธิน 11 นาย และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนอีก 1 นาย ถูกสังหารระหว่างยิงต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย นอกจากนี้ เครื่องบินลาดตระเวนน่านน้ำรุ่น พี-3ซี โอเรียน ที่สหรัฐฯส่งมายังฐานทัพอากาศ พีเอ็นเอส เมห์ราน เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ก็ถูกทำลายไป 2 ลำ
อาลี ระบุว่า ไม่มีชาวต่างชาติอยู่ภายในฐานทัพดังกล่าวขณะที่เกิดการโจมตี และยังไม่มีรายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายได้จับใครเป็นตัวประกันหรือไม่