เอเอฟพี - รัตโก มลาดิก ผู้ต้องหาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวบอสเนียเซิร์บ ยืนกรานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ที่เมืองเซรเบรนิกาเมื่อปี 1995 ลูกชายของเขาเผย ขณะที่มีผู้ชุมนุมรวมตัวกันประท้วงการจับกุมอดีตผู้บัญชาการทหารรายนี้ในกรุงเบลเกรดนับหมื่นคน
ทั้งนี้ได้เกิดการปะทะกันเล็กน้อยระหว่างเจ้าหน้าที่ และผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันประท้วงอย่างสงบใจกลางกรุงเบลเกรด โดยกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งขว้างปาก้อนหิน และลูกไฟใส่ตำรวจปราบจลาจล แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
ด้าน อิวิกา ดาซิก รัฐมนตรีมหาดไทยของเซอร์เบีย แถลงผ่านทางโทรทัศน์ว่า สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุไม่สงบได้ 111 คน โดย 37 คนเป็นเยาวชน ขณะที่มีพลเรือน 10 ราย และเจ้าหน้าที่อีก 26 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นส่วนใหญ่
เจ้าหน้าที่ระบุว่า การประท้วงในวันอาทิตย์ (29) นี้มีผู้ร่วมชุมนุมราว 8,000-10,000 คนหน้ารัฐสภาใจกลางกรุงเบลเกรด ขณะที่มีตำรวจและเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลคอยควบคุมสถานการณ์ในบริเวณใกล้เคียง 3,000 นาย
การจับกุมมลาดิกเมื่อวันพฤหัสบดี (26) ที่ผ่านมาสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวเซอร์เบีย ซึ่งยังคงมองว่าเขาเป็นวีรบุรุษของชาติอย่างมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้อดีตผู้บัญชาการทหารได้ขอร้องผ่านทนายความของเขาไม่ให้ผู้สนับสนุนออกมาชุมนุมประท้วงแล้วก็ตาม
ก่อนหน้านี้ ดาร์โก ลูกชายของนายพลมลาดิกออกมาชี้แจงว่า พ่อของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ผู้ชาย และเด็กมุสลิมราว 8,000 คน ที่เมืองเซเบรนิกา ซึ่งถือเป็นเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมยืนยันว่าจริงๆ แล้วเขาช่วยชีวิตผู้หญิง เด็ก และนักรบชาวเซอร์เบียไว้ได้เป็นจำนวนมาก
“เขาบอกว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในเซเบรนิกา เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง” ดาร์โก มลาดิกกล่าวหลังเข้าเยี่ยมพ่อของเขาในเรือนจำของศาลอาชญากรสงคราม โดยว่าคงมีใครลงมือทำสิ่งเหล่านั้นลับหลังเขา
ขณะที่ มลาดิก วัย 69 ปี อาจจะถูกส่งตัวขึ้นศาลอาชญากรระหว่างประเทศของยูเอ็นที่กรุงเฮก ในอีก 2-3 วันข้างหน้า ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และเป็นอาชญากรสงคราม
