เอเอฟพี - รัตโก มลาดิก ผู้ต้องหาคดีอาชญากรรมสงครามบอสเนีย เตรียมยื่นอุทธรณ์คัดค้านการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังศาลพิเศษอาชญากรรมสงคราม ณ กรุงเฮก วันนี้ (30) หลังจากชาวเซอร์เบียจำนวนเกินกว่าหมื่นคนรวมตัวชุมนุมให้การสนับสนุน
เมื่อวันศุกร์ (27) ตุลาการเซอร์เบียพิพากษาว่า รัตโก มลาดิก อดีตผู้นำกองทัพเซิร์บ วัย 69 ปี แข็งแรงพอที่จะถูกส่งตัวไปยังศาลอาญาพิเศษระหว่างประเทศ สำหรับอดีตยูโกสลาเวีย (ไอซีวายที) ณ กรุงเฮก แม้ว่าทนายส่วนตัวของมลาดิกและครอบครัวจะยื่นคำร้องคัดค้านการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยอ้างถึงอาการเส้นเลือดอุดตัน และอาการเจ็บป่วยอื่นๆ
ทั้งนี้ มลาดิก มีเวลา 3 วันในการอุทธรณ์คำพิพากษา มิลอส ซัลจิค ทนายความของมลาดิกเปิดเผยว่าจะยื่นคำร้องคัดตค้านต่อศาลภายในวันนี้ อย่างไรก็ตามซัลจิคสันนิษฐานว่าลูกความของเขาจะมีชีวิตอยู่ถึงวันพิจารณาคดีหรือไม่ เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่รุมเร้า
ด้าน บรูโน เวการิก โฆษกของคณะอัยการคดีอาชญากรรมสงครามเซอร์เบีย ยืนยันว่า มลาดิกมีสุขภาพแข็งแรงเพียงพอ และปรามาสว่าข้อโต้แย้งเรื่องนี้เป็นเพียงการประวิงเวลาเท่านั้น
“การยื่นอุทธรณ์นี้เป็นการประวิงกระบวนการศาล พวกเขาพยายามชี้นำว่ามลาดิกสติไม่สมประกอบ แน่นอนเขามีปัญหาสุขภาพ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เขาไม่ต้องไปกรุงเฮก” บรูโน เวการิก กล่าว
ส่วนตำรวจเซอร์เบีย เปิดเผยว่า ได้จับกุมกลุ่มผู้ประท้วง 180 คน หลังปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเล็กน้อย ขณะกลุ่มคลั่งชาติประมาณ 10,000-15,000 คนชุมนุมสนับสนุนรัตโก มลาดิก วานนี้ (29) โดยกลุ่มยุวชนคลั่งชาติเซิร์บขวางก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 43 ราย เป็นตำรวจ 32 ราย
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมส่วนใหญ่ของการประท้วงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากทนายของมลาดิกประกาศว่าอดีตนายพลผู้นี้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ แม้เขาจะถูกจับตัวก็ตาม
รัตโก มลาดิก ถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดี (26) หลังจากหลบหนีคดีมานานกว่า 16 ปี ศาลอาชญากรรมพิเศษระหว่างประเทศสำหรับอดีตยูโกสลาเวียตั้งข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรรมสงคราม โดยกล่าวหาว่า มลาดิกอยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่ 8,000 ศพ เมืองเซรเบรนิกา และการปิดล้อมกรุงซาราเยโวยาวนานถึง 44 เดือน
การจับตัวมลาดิกนำมาซึ่งเสียงแซ่ซ้องจากนานาชาติ แต่ก็เป็นชนวนการประท้วงด้วยความโกรธแค้นในกลุมคนเซิร์บ เนื่องจากชาวเซอร์เบียจำนวนมากยกย่องรัตโก มลาดิก ในฐานะเป็นวีรบุรุษของชาติ