เอเอฟพี - เหตุปะทุของภูเขาไฟกริมสว็อตน์ผ่านสถานการณ์เลวร้ายที่สุดไปแล้วและเวลานี้ทางการไอซ์แลนด์จะพุ่งเป้าไปที่การทำความสะอาดพื้นที่ต่างๆที่ถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน นายกรัฐมนตรีโจฮันนา ซิกูร์ดาร์ดอททีร์ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(25)
"สถานการณ์เลวร้ายที่สุดผ่านพ้นไปแล้วและตอนนี้ถึงเวลาเริ่มต้นทำความสะอาด" ซิกูร์ดาร์ดอททีร์กล่าว หลังจากเมื่อวันอังคาร(24) นางได้เดินทางเยือนพื้นที่ใกล้ภูเขาไฟซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน โดยภูเขาไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์และอยู่ใต้ธารน้ำแข็งใหญ่ที่สุดของประเทศ
นายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้บอกต่อว่าตอนนี้ดูเหมือนว่า “ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบรรดาประเทศเพื่อนบ้านของเรา โดยเป็นผลจากเถ้าถ่านภูเขาไฟ ก็น่าที่จะคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว”
อย่างไรก็ตามซิกูร์ดาร์ดอททีร์ ระบุแม้มีความคาดหมายว่าการเจรจาทางอากาศจะกลับคืนสู่ภาวะปกติเร็วๆนี้ ทว่าประชาชนราว 1,000 คนที่พักอาศัยอยู่ในเมืองใกล้เคียงภูเขาไฟยังคงต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทาย
"ไอซ์แลนด์เคยประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติมาก่อน และรัฐบาลมีความพร้อมสำหรับจัดเตรียมมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเหลือประชาชน ทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเถ้าถ่าน และนำพาความปกติคืนสู่พื้นที่เกษตรกรรมและธุรกิจอื่นๆ" เธอกล่าว
ตอนที่ภูเขาไฟกริมสว็อตน์ ปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์(21) มันพ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันหนาทึบปกคลุมท้องฟ้าสูงกว่า 20 กิโลเมตร ก่อความกังวลว่าอาจซ้ำรอบเหตุภูเขาไฟไอยาฟยาพลาเยอร์คูดุลปะทุเมื่อปีที่แล้ว โดยคราวนั้นส่งผลให้มีการปิดน่านฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดของโลกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 กระทบต่อการบินกว่า 100,000 เที่ยวและทำผู้โดยสารตกค้างกว่า 8 ล้านคน
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ปะทุเป็นต้นมา ภูเขาไฟกริมสว็อตน์ส่งผลกระทบน้อยกว่า แม้มันจะนำมาซึ่งการยกเลิกเที่ยวบินราว 500 เที่ยวในสหราชอาณาจักรเมื่อวันอังคาร(24) ปิดน่านฟ้าทางเหนือของเยอรมนีช่วงสั้นๆและคาดหมายว่าจะต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินอีก 700 เที่ยวในวันพุธ(25)ก็ตาม
ทั้งนี้ในวันพุธ(25) ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าภูเขาไฟเลิกปะทุแล้วและลดการพ่นเถ้าถ่านลงอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าเหตุความวุ่นวายด้านการบินคงจะสิ้นสุดเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามทางการไอซ์แลนด์และนักวิทยาศาสตร์ยังลังเลที่จะยืนยันว่าภูเขาไฟหยุดปะทุโดยสิ้นเชิงแล้ว
