เอเอฟพี - หนุ่มใหญ่แซ่คิมชาวเกาหลีใต้ ถูกจับกุมตัวด้วยข้อหาก่อเหตุระเบิด 2 ครั้งที่สถานีรถไฟกรุงโซล และสถานีรถเมล์ด่วนแห่งหนึ่งในเมืองหลวงโสมขาวเมื่อวันพฤหัสบดี (12) ที่ผ่านมา ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ตลาดหลักทรัพย์เกิดความตระหนกตกใจ แล้วตนเองก็จะได้กำไรจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้ไปซื้อหาเอาไว้ ทั้งนี้ตามคำแถลงของตำรวจในวันอาทิตย์ (15)
“เขาไปลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินเอาไว้ 50 ล้านวอน (46,000 ดอลลาร์) ในเดือนนี้ (โดยที่ถ้าตลาดหุ้นหล่นฮวบ เขาก็จะได้กำไร) … เขาให้การว่าเขาเชื่อว่าเมื่อมีระเบิดเกิดขึ้นจะทำให้ตลาดหุ้นตกวูบ สืบเนื่องจากผู้คนกำลังวิตกกังวลอยู่แล้วภายหลังการเสียชีวิตของอุซามะห์ บิน ลาดิน” ตำรวจกรุงโซลผู้หนึ่งแจกแจงให้พวกผู้สื่อข่าวฟัง
คิมซึ่งอยู่ในวัย 43 ปี เพิ่งออกจากคุกในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วภายหลังติดอยู่ 4 ปีด้วยข้อหาโจรกรรม ตำรวจผู้นี้บอกพร้อมกับเล่าด้วยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาคิมขาดทุนจากการลงทุนในหุ้นไปเป็นเงินมากกว่า 300 ล้านวอน
“เราคิดว่ากรณีนี้ไม่ใช่เรื่องเจตนาที่จะก่อการร้ายทางการเมืองใดๆ … ผู้ต้องสงสัยเพียงแต่กำลังพยายามที่จะสร้างผลกระทบกระเทือนต่ออารมณ์ความรู้สึกของตลาด” ตำรวจระบุ
ในการปฏิบัติการ หนุ่มใหญ่รายนี้ได้ว่าจ้างชายอีก 2 คนให้ไปซื้อหาวัตถุระเบิด และนำระเบิดเวลาประกอบสำเร็จแล้วซึ่งทำจากภาชนะบรรจุก๊าซบิวเทน ไปเก็บไว้ในล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าของสถานีรถไฟและสถานีรถโดยสารดังกล่าว
ปรากฏว่าระเบิดทั้ง 2 บึ้มขึ้นมาในช่วงเวลาห่างกันราว 30 นาทีเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี โดยที่ก่อให้เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อย และไม่มีผู้บาดเจ็บล้มตายใดๆ แต่ก็ทำให้ดัชนีกอสปี ซึ่งเป็นดัชนีสำคัญของตลาดหลักทรัพย์กรุงโซล หล่นลงมา 2.03% ในตอนปิดการซื้อขายวันนั้น
อย่างไรก็ดี เนื่องจากเหตุระเบิดเช่นนี้นานๆ จะเกิดขึ้นในเกาหลีใต้สักครั้ง จึงทำให้ทางการเร่งดำเนินการสืบสวนอย่างเข้มข้น โดยมีการตรวจสอบตามศูนย์คมนาคมขนส่งใหญ่ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งใช้กำลังตำรวจหน่วยคอมมานโดและสุนัขดมกลิ่นมาค้นหาด้วย
ภายหลังตำรวจตรวจดูภาพวิดีโอจากกล้องทีวีวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ และสืบสาวหาแหล่งที่มาของวัตถุระเบิดที่ยังหลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว ก็ได้เข้าจับกุมตัวหนุ่มใหญ่แซ่คิม และชายที่ร่วมมือกับเขาอีก 2 คนเอาไว้ได้เมื่อวันเสาร์ (14) ที่ผ่านมา
