เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ยอมรับรู้สึกวิตกกังวลต่อปฏิบัติการจู่โจมอย่างลับๆ ซึ่งสามารถปลิดชีพอุซามะห์ บิน ลาดิน แกนนำเครือข่ายอัลกออิดะห์ลงได้ แม้ที่ปรึกษาของเขาบางคนจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับแผนการดังกล่าว
โอบามาเปิดใจให้สัมภาษณ์กับรายการ “60 มินิตส์” ทางสถานีซีบีเอส ซึ่งออกอากาศในวันอาทิตย์ (8) ที่ผ่านมาว่า “พวกคุณนึกถึงแบล็กฮอว์กดาวน์ พวกคุณนึกถึงการกู้ภัยในอิหร่าน ใช่ แน่นอน ในวันก่อนหน้านั้น ผมก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่น้อย”
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวถึงการต่อสู้ที่โมกาดิชู เมื่อปี 1993 ซึ่งเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของสหรัฐฯ 2 ลำถูกพวกมือปืนกลุ่มติดอาวุธสอยร่วงลงได้ แล้วลากศพนายทหารอเมริกันออกมาประจานตามท้องถนน
นอกจากนี้ เขายังอ้างถึงภารกิจช่วยเหลือที่ล้มเหลวเมื่อปี 1980 โดยประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ เป็นผู้ออกคำสั่งปฏิบัติการลับช่วยตัวประกันชาวอเมริกันในอิหร่าน แต่ภารกิจนั้นก็ไปไม่ถึงจุดหมาย เนื่องจากเครื่องบิน 2 ลำชนกันก่อนบินถึงกรุงเตหะราน
นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่เขาคิดอยู่ในหัว แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างถึงที่สุดของหน่วยข่าวกรองต่างๆ แต่โอบามาก็ยังไม่ได้ภาพถ่ายของบิน ลาดิน จากแหล่งกบดานของเขาในปากีสถานเลย
“ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเขาอยู่ที่นั่น” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว “ในช่วงท้ายของวัน สถานการณ์ก็ยังเป็น 55 ต่อ 45 ผมหมายถึงเราไม่สามารถระบุอย่างแน่นอนว่าบิน ลาดินอยู่ที่นั่น เขาอาจจะไม่ได้อยู่ที่นั่นก็ได้ และนั่นอาจจะทำให้มีผลร้ายแรงบางอย่างตามมา”
โอบามาระบุว่า การส่งปฏิบัติการทางทหารเข้าไปในดินแดนของประเทศเอกราชอื่น และไม่ได้แจ้งให้รัฐบาลของประเทศนั้นทราบ ถือเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งในการที่จะตัดสินใจ
ขณะที่ที่ปรึกษาบางคนคัดค้านการบุกจู่โจมแบบคอมมานโด แต่โอบามาต้องการให้แน่ใจว่าพวกเขาจัดการกับบิน ลาดินจริง และได้พิจารณาทุกทางเลือกแล้ว ซึ่งในที่สุดก็เป็นปฏิบัติการที่คุ้มค่ากับที่จ่ายไป
“ผมบอกกับตัวเองว่า ถ้าเรามีโอกาสดีๆ ครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่เพียงแค่ปราบปรามอัลกออิดะห์อย่างสิ้นเชิง แต่ยังทำให้ไร้ความสามารถไปได้อย่างมาก นั่นจึงคุ้มค่าที่จะเสี่ยงทั้งทางการเมือง เช่นเดียวกับความเสี่ยงกับคนของเรา” โอบามากล่าว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีได้ตัดสินใจเกี่ยวกับปฏิบัติการดังกล่าวในคืนวันพฤหัสบดี (28 เม.ย.) ก่อนที่จะบุกจู่โจมแหล่งกบดานของบิน ลาดิน ในวันอาทิตย์ (1) โดยในระหว่างนั้น เขาก็ยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เช่น เยือนพื้นที่ประสบภัยทอร์นาโดทางใต้ของประเทศ กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษา หรือแม้แต่วิจารณ์โดนัลด์ ทรัมป์ ในงานเลี้ยงอาหารค่ำนักข่าวประจำปี
โอบามาระบุว่า การเก็บภารกิจนี้ไว้เป็นความลับถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เขาไม่ได้บอกแม้กระทั่งครอบครัวของเขา เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวน้อยคนที่จะรู้ แม้แต่ผู้ช่วยที่อาวุโสที่สุดของเขาเอง
ในวันอาทิตย์ (1) โอบามาออกไปตีกอล์ฟ รอให้พระอาทิตย์ตกดินในปากีสถาน จากนั้นก็นั่งรอในห้องๆ หนึ่งที่ทำเนียบขาว เพื่อดูรายงานสดปฏิบัติการเป็นเวลา 40 นาที ร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ คนอื่นๆ ซึ่งเขาระบุว่าบรรยากาศตึงเครียดมาก
"นั่นเป็น 40 นาทีที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของผม นอกเหนือจากช่วงเวลาเมื่อซาชาป่วยเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบตอนเธออายุแค่ 3 เดือน และผมต้องนั่งรอหมอมาบอกว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว" ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาและคณะเจ้าหน้าที่ต่างรู้สึกประหลาดใจที่รู้ว่าเป็นบิน ลาดินจริงๆ ที่อาศัยอยู่ที่บ้านพักในปากีสถานหลังนั้น และเท่าที่พวกเขารู้คือ แกนนำอัลกออิดะห์ซ่อนตัวอยู่ที่นั่นมาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว