เกียวโดนิวส์ - ความหวั่นกลัวต่อกัมมันตรังสีขัดขวางเจ้าหน้าที่ซึ่งพยายามเข้าไปเก็บกู้ศพเหยื่อผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวและสึนามิอีกนับ 1,000 ศพ ในรัศมีโซนอพยพ 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ
แหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (31) ว่า “มีหลายศพที่ได้รับกัมมันตรังสีระดับสูงหลังเสียชีวิตแล้ว” ทั้งนี้สิ่งที่ยืนยันคำพูดดังกล่าวได้เป็นอย่างดีก็คือ เมื่อวันอาทิตย์ (27) มีการตรวจเจอกัมมันตรังสีระดับสูงในศพผู้เสียชีวิตร่างหนึ่งที่ถูกพบในโอคุมะ จังหวัดฟูกูชิมะ ห่างจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ราว 5 กิโลเมตร
เวลานี้เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาหาวิธีการเข้าไปเก็บศพเหล่านั้น ท่ามกลางความกังวลว่าตำรวจ คณะแพทย์และญาติผู้เศร้าโศกของผู้เสียชีวิตอาจได้รับกัมมันตภาพรังสีที่แพร่กระจายจากศพที่กู้มาหรือ ณ ห้องเก็บศพต่างๆ
เดิมทีพวกเขามีแผนตรวจสอบศพหลังจากเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตเหล่านั้นออกนอกเขตอพยพ แต่ต้องมีการทบทวนแผนใหม่เนื่องจากความกังวลต่อการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสี
ชาวบ้านถูกเคลื่อนย้านออกนอกโซนอพยพนับตั้งแต่วิกฤตนิวเคลียร์ ณ โรงไฟฟ้าเริ่มขึ้นตามหลังภัยพิบัติสึนามิและแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคม นำมาซึ่งการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีหลังระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์และบ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วได้รับความเสียหายจากหายนะดังกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า แม้มีการส่งมอบศพให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตไปแล้ว แต่การฌาปนกิจอาจก่อการแพร่กระจายของกลุ่มควันที่บรรจุกัมมันรังสีขณะที่การฝังก็มีสิทธิ์ทำให้เกิดการปนเปื้อนในดินรอบพื้นที่ฝังศพ
เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะขจัดสารปนเปื้อนและตรวจสอบ ณ จุดที่พบเลย แต่แหล่งข่าวระบุว่าการทำสะอาดศพที่เน่าเปื่อยอยู่แล้วก็อาจก่อความเสียหายแก่ศพเพิ่มเติมจนยากที่จะระบุเอกลักษณ์บุคคลได้
ทั้งนี้แม้ไม่นับรวมศพที่ยังไม่สามารถเก็บกู้ได้รอบโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ แต่ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวและสึนามิที่ยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดี (31) อยู่ที่ 11,417 คน สูญหาย 16,361 คน