xs
xsm
sm
md
lg

พบรังสีหมื่นเท่าในอุโมงค์ใต้เตานิวเคลียร์-เนื้อวัวปนเปื้อนซีเซียมในญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีในน้ำ ณ อุโมงค์ใต้ดินนอกอาคารกังหันไอน้ำของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ
เอเจนซี - เจ้าหน้าที่ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีในน้ำ ณ อุโมงค์ใต้ดินนอกอาคารกังหันไอน้ำของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ สูงกว่าระดับปกติถึง 10,000 เท่า สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานโดยอ้างคำบอกเล่าของบริษัทผู้ดำเนินการเมื่อวันพฤหัสบดี(31) ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขก็พบเนื้อวัวปนเปื้อนซีเซียมผิดปกติในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้าดังกล่าว

โตเกียว อิเล็กทริค เพาเวอร์ โค (เท็ปโก) บริษัทผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ระบุด้วยว่าเจ้าหน้าที่ยังพบกัมมันตภาพรังสีในน้ำใต้ดินใกล้อาคารกังหันไอน้ำของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ เช่นกัน นอกจากนี้แล้วทางกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นยังพบกัมมันตรังสีซีเซียมสูงผิดปกติในเนื้อวัวใกล้พื้นที่ดังกล่าวด้วย

ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นระงับการส่งออกผลผลิตต่างๆทั้งนมและผักใบเขียวจากฟุกุชิมะและอีก 3 จังหวัดใกล้เคียง หลังพบกัมมัมตภาพรังสีปนเปื้อนในตัวอย่างอาหารเหล่านั้น นอกจากนี้ยังได้จับตาอย่างเข้มงวดต่อการส่งออกผลผลิตในอีก 6 จังหวัด ซึ่งครอบคลุมถึงพื้นที่ซึ่งติดกับโตเกียวด้วย

คำยืนยันของบริษัทผู้ดำเนินการแห่งนี้ขึ้นขณะที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับแรงกดดันที่สูงขึ้นเรื่อยๆต่อการขยายเขตอพยพเพิ่มเติมรอบโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหายแห่งนี้ หลังจากพบกัมมันตภาพรังสีระดับสูงนอกเขตอพยพและพบระดับกัมมันตรังสีไอโอดีน -131 ในทะเลใกล้โรงไฟฟ้าเพิ่มสูงเกินเกณฑ์ปกติถึง 4,385 เท่า

โดยทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ที่เป็นองค์กรชำนัญพิเศษด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ได้ออกมาแถลงเสนอแนะให้ญี่ปุ่นพิจารณาขยายพื้นที่ซึ่งประกาศให้เป็นเขตอพยพประชาชน

ข้อเสนอแนะนี้เป็นการหนุนหลังสิ่งที่องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อม “กรีนพีซ” เคยเรียกร้องเอาไว้ อีกทั้งหลักฐานที่ใช้สนับสนุนก็เป็นเรื่องระดับกัมมันตภาพรังสีที่วัดได้จากหมู่บ้านลิตาเตะ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ประมาณ 40 กิโลเมตร เช่นเดียวกันด้วย โดยกรีนพีซบอกว่า ระดับรังสีที่หมู่บ้านดังกล่าวถือว่าเป็นอันตรายสำหรับชาวบ้านที่ต้องพำนักอาศัยเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ และสตรีมีครรภ์ ซึ่งมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ

สำหรับไอเออีเอนั้น เดนิส ฟลอรี หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยและความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของไอเออีเอ กล่าวต่อที่ประชุมแถลงข่าวจากสำนักงานใหญ่ขององค์กรนี้ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ว่า ระดับรังสีที่พบในหมู่บ้านลิตาเตะ สูงเกินเกณฑ์ที่ถือกันว่าควรต้องสั่งอพยพประชาชน

โดยที่ เอเลนา บูโกลวา ผู้อำนวยการของศูนย์เหตุการณ์และภาวะฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ ของไอเออีเอ ระบุว่า วัดกัมมันตภาพรังสีที่หมู่บ้านแห่งนั้นได้ 2 เมกะเบคเคอเรลต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงกว่าระดับที่ไอเออีเอแนะนำให้อพยพประชาชน “ราวสองเท่าตัว”

ทั้งนี้ไอเออีเอได้แนะนำญี่ปุ่นให้ “ประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบระมัดระวัง และพวกเขาก็แสดงท่าทีว่าเรื่องนี้ได้ถูกนำมาประเมินค่าไปแล้ว” ฟลอรีกล่าว

ในเวลานี้ทางการญี่ปุ่นกำหนดให้พื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าแห่งนี้ในวงรัศมี 20 กิโลเมตร เป็นเขตที่ประชาชนต้องอพยพออกไป และผู้ที่อยู่ในวงรัศมีระหว่าง 20-30 กิโลเมตร ควรที่จะโยกย้ายออกเช่นกัน แต่ยังไม่ถือเป็นเขตอพยพ เพียงแต่ถ้าจะอยู่ต่อก็ให้อยู่แต่ภายในอาคาร ถึงแม้มีหลายๆ ฝ่ายเสนอแนะไว้ก่อนหน้านี้ เช่นสหรัฐฯได้มีคำชี้แนะพลเมืองและกำลังทหารของตนซึ่งมาช่วยเหลือการกู้ภัยบรรเทาทุกข์คราวนี้ ต้องอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ในรัศมี 80 กิโลเมตร ทว่าฝ่ายโตเกียวก็ยืนยันตลอดมาว่ายังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะต้องมีการขยายพื้นที่อพยพ
กำลังโหลดความคิดเห็น