เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารกัมมันตรังสี เข้มข้นในน้ำที่รั่วไหลจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ทำให้ต้องอพยพคนงานออกทันที ผู้บริหารโรงไฟฟ้าเผยวันนี้ (27)
โฆษกของ โตเกียว อิเล็คทริก เพาเวอร์ โค (เทปโก) เปิดเผยว่า ปริมาณรังสีที่พบในน้ำจากอาคารกังหันเตาปฏิกรณ์สูงกว่าที่ควรจะเป็นถึง 10 ล้านเท่า ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแท่งเชื้อเพลิงอาจได้รับความเสียหาย
“เราตรวจพบการแพร่กระจายของรังสีราว 1,000 มิลลิซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ในน้ำจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ซึ่งมีระดับสูงกว่าที่พบในน้ำภายในเตาปฏิกรณ์ทั่วไปถึง 10 ล้านเท่า” โฆษกเผย
“เรากำลังเร่งหาสาเหตุของมัน แต่ยังไม่มีการปฏิบัติงานใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากปริมาณรังสีเข้มข้นมาก”
“ระดับกัมมันตรังสีซีเซียมและสารอื่นๆ มีความเข้มข้นสูงกว่าที่ควรเป็น จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าแท่งเชื้อเพลิงอาจได้รับความเสียหาย”
ผู้ที่ได้รับรังสีถึง 1,000 มิลลิซีเวิร์ต จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนชั่วคราว และการสัมผัสสารกัมมันตรังสี 100 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี คือปริมาณน้อยที่สุดที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้
ด้าน ฮิเดฮิโกะ นิชิยามา โฆษกสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ระบุว่า “นี่เป็นระดับกัมมันตภาพรังสีที่สูงมาก และเป็นไปได้ว่าน้ำเหล่านี้รั่วไหลออกมาจากเตาปฏิกรณ์”
สัปดาห์ที่แล้ว พนักงานโรงไฟฟ้า 3 คน เกิดรอยไหม้ที่เท้า เนื่องจากย่ำไปในน้ำที่ปนเปื้อนรังสีโดยไม่สวมเครื่องป้องกันเพียงพอ ขณะเข้าไปเชื่อมกระแสไฟฟ้าภายในห้องใต้ดินเพื่อฟื้นระบบหล่อเย็นแก่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3
2 ใน 3 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลเพราะสัมผัสรังสีเบต้าจนผิวหนังไหม้ ซึ่งปริมาณรังสีระดับนี้อาจทำให้สารพันธุกรรมเปลี่ยนแปลง และก่อให้เกิดมะเร็งจนถึงแก่ความตาย
พนักงานทั้ง 3 สัมผัสกับรังสีราว 180 มิลลิซีเวิร์ต ซึ่งสูงกว่าระดับปลอดภัยสำหรับพนักงานโรงไฟฟ้าถึง 3 เท่า และเกือบถึงระดับสูงสุด 250 มิลลิซีเวิร์ตที่รัฐบาลอนุญาตสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในภาวะฉุกเฉิน
ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นประกาศวันนี้ (27) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิสูงถึง 10,489 ราย สูญหายอีก 16,621 ราย และบาดเจ็บอีก 2,777 คน