เอเอฟพี - ศาลแดนอาทิตย์อุทัย พิพากษาลงโทษประหารชีวิต อดีตพนักงานบริษัทรถยนต์รายหนึ่ง วันนี้ (24) ฐานฆาตกรรม หลังจำเลยก่อเหตุสังหารหมู่ โดยขับรถบรรทุกฝ่าถนนที่มีผู้คนจอแจ และใช้มีดไล่แทงผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้า จนมีผู้เสียชีวิต 7 คน เมื่อปี 2008
โทโมฮิโระ คาโตะ ฆาตกรวัย 28 ปีรายนี้ ให้การต่อศาลแขวงกรุงโตเกียว ว่า เขายินดีรับผิดต่อเหตุสังหารคนเดินถนนทั้ง 7 ในย่านอากิฮาบาระ ศูนย์รวมสินค้าโลกไซเบอร์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่ง เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 10 คน คาโตะ ถูกจับกุมได้ไม่นานหลังก่อเหตุ ในวันนั้นเขาขับรถบรรทุกน้ำหนักกว่า 2 ตัน ฝ่าฝูงชนที่กำลังเดินเลือกซื้อสินค้าในวันอาทิตย์ ซึ่งจะมีการปิดถนนไม่ให้รถยนต์แล่นผ่าน และคว้ามีดไล่ฆ่าผู้บริสุทธิ์
“จำเลยใช้มีดทำร้ายผู้ที่เดินผ่านไปมา และคร่าชีวิตผู้คน ซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่” ฮิโรอากิ มูรายามะ หัวหน้าผู้พิพากษา กล่าว
อนึ่ง นอกจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่นเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพียงประเทศเดียวที่มีการประหารชีวิตอาชญากร ในคดีที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ปัจจุบันญี่ปุ่นประหารชีวิตนักโทษไปแล้วมากกว่า 100 ราย
เหตุสยองขวัญกลางวันแสกๆ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2008 ได้สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงแก่คนญี่ปุ่น ซึ่งมีสถิติคดีอาชญากรรมต่ำมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน สื่อก็หันมาให้ความสนใจกับประเด็นการคุกคามบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นแรงขับ โทโมฮิโระ คาโตะ ไปสู่โศกนาฏกรรมกลางย่านอากิฮาบาระ โดยจำเลยผู้นี้รับสารภาพต่อหน้าศาลแขวงกรุงโตเกียว ว่า ก่อเหตุไล่แทงผู้คน เพราะเขาตกเป็นเหยื่อการคุกคามทางอินเทอร์เน็ต
“ผมอยากให้ทุกคนได้รู้ว่า ผมต้องการหยุดพฤติกรรมอันธพาลบนเว็บบอร์ดที่ผมเคยเล่น” สื่อท้องถิ่นรายงานคำให้การของจำเลย
ญี่ปุ่นไม่เคยเกิดเหตุอาชญากรรมร้ายแรงมาตั้งแต่ปี 2001 เมื่ออดีตผู้ป่วยจิตเวชคนหนึ่ง ใช้มีดจ้วงแทงเด็กประถมเสียชีวิต 8 ราย ในโรงเรียนอิเคดะ เมืองโอซากา นอกจากนี้ คดีฆาตกรรมกลางย่านการค้าอากิฮาบาระจากน้ำมือของคาโตะนี้ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายห้ามประชาชนครอบครองมีด 2 คม ซึ่งใบมีดมีความยาวเกินกว่า 5.5 เซนติเมตร โดยมีกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 เยน (ประมาณ 187,000 บาท)
ทั้งนี้ ตลอดการพิจารณาคดีทั้งหมด 29 ครั้งที่ผ่านมา ทนายจำเลยคัดค้านการลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต โดยโต้แย้งว่า โทโมฮิโระ คาโตะ ไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ต่างๆ ได้โดยสมบูรณ์ และชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ คาโตะ มีสติฟั่นเฟือนขณะลงมือสังหาร อย่างไรก็ตาม คณะอัยการยืนกรานว่า คาโตะ สมควรรับโทษดังกล่าว เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน ว่า เขาวางแผนล่วงหน้ามาแล้วหลายวัน
ขณะ คาโตะ ขับรถมุ่งหน้าไปยังย่านอากิฮาบาระในวันเกิดเหตุ เขายังพิมพ์ข้อความสนทนาในห้องแชต ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ว่า เขากำลังจะไปฆ่าใครสักคน ด้านจิตแทพย์จากการแต่งตั้งของฝ่ายจำเลยให้การต่อศาล ว่า คาโตะ เป็นเหยื่อของการเลี้ยงดูด้วยความรุนแรง โดยครั้งหนึ่งเขาเคยถูกแม่ลงโทษด้วยการบังคับให้ยืนเท่าเปล่ากลางหิมะ
