เอเอฟพี - ทีมเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินของญี่ปุ่นกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อลดความร้อนแท่งเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะอีกครั้ง 1 วันหลังจากเกิดควันดำขโมงทำให้ต้องอพยพคนงานเหล่านั้นออกไป
เจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะการหลอมละลายที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ซึ่งปล่อยกัมมันตภาพรังสีออกมา ทำให้ประชาชนโดยรอบจำนวนหลายแสนคนต้องอพยพออกไป อีกทั้งยังทำให้ผลิตผลทางการเกษตร และน้ำดื่มปนเปื้อนสารรังสี สร้างความวิตกกังวลอย่างกว้างขวาง
ในเช้านี้ (24) พบว่า มีไอน้ำสีขาวลอยขึ้นมาจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 4 หน่วยจากทั้งหมด 6 หน่วย เนื่องจากหน่วยดับเพลิงกรุงโตเกียวได้กลับมาทำงานอีกครั้ง โดยการฉีดน้ำทะเลเข้าไปในบ่อแช่แท่งเชื้อเพลิงภายในอาคารเตาปฏิกรณ์
เจ้าหน้าที่บางส่วนได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังออกจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวในวันพุธ (23) ที่ผ่านมา หลังจากควันสีเทาเข้มลอยขึ้นมาจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากแผ่นดินไหวระดับ 9.0 และคลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 14 เมตร ที่ถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวนั้นสร้างความเสียหายให้กับแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกโรงไฟฟ้า ส่วนเตาปฏิกรณ์หมายเงข 1-3 ซึ่งเดินเครื่องอยู่ในขณะนั้นดับลงโดยอัตโนมัติ แต่สึนามิที่ซัดซ้ำทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองพัง และระบบหล่อเย็นล้มเหลว
จุดหลักของภารกิจในครั้งนี้อยู่ที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ซึ่งน่ากังวลเป็นพิเศษเนื่องจากใช้แท่งเพลิงเชื้อเพลิงยูเรเนียม-พลูโตเนียม ที่หลอมละลายได้ง่าย โดยการฉีดน้ำสร้างบ่อแช่นั้นมีเป้าหมายเพื่อไม่ให้เชื้อเพลิงดังกล่าวสัมผัสอากาศ ซึ่งอาจปล่อยกัมมันตภาพรังสีจำนวนมหาศาลออกมาได้
ขณะที่วิศวกรสามารถเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าจากภายนอกเข้าไปยังเตาปฏิกรณ์ทั้ง 6 เครื่องได้แล้ว และกำลังทดสอบระบบส่วนประกอบ และอุปกรณ์ เพื่อที่จะเดินเครื่องระบบหล่อเย็นได้ใหม่อีกครั้ง และรักษาเตาปฏิกรณ์ให้มีเสถียรภาพ
ทีมวิศวกรสามารถกู้กระแสไฟฟ้าในห้องควบคุมเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ได้บางส่วนแล้วเมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้ คนงานต้องคลำหาทางกันในความมืด ใช้เพียงไฟฉาย และไม่มีระบบปรับอากาศเพื่อดึงกัมมันตภาพรังสีที่เพิ่มขึ้นออกไป
ทั้งนี้ รัฐบาลประกาศเขตกันคนออกไปในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว 250 กิโลเมตร และอพยพชาวบ้านหลายแสนคนในบริเวณนั้น รวมทั้งยังเตือนประชาชนในรัศมี 20-30 กิโลเมตรให้อยู่แต่ในบ้าน