xs
xsm
sm
md
lg

ลูกกัดดาฟีชี้ “บอมบ์” อ่าวบรีกาแค่ขู่ผู้ประท้วง-จวก “ชาเบซ” เหมือนนายหน้าในเวบ “แอมะซอน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซาอิฟ อัล-อิสลาม บุตรชายของ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ระบุว่าการโจมตีอ่าวบรีกาเป็นไปเพื่อข่มขู่ผู้ประท้วงเท่านั้น พร้อมปัดข้อเสนอเจรจาของประธานาธิบดี ฮูโก ชาเบซ แห่งเวเนซุเอลา
เอเอฟพี - ซาอิฟ อัล-อิสลาม บุตรชายพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี เผยวานนี้(3) การโจมตีอ่าวบรีกามีจุดประสงค์เพื่อข่มขู่ให้ผู้ประท้วงกลัว และออกไปจากเมืองท่าส่งออกน้ำมันและก๊าซเท่านั้น

“การทิ้งระเบิดที่อ่าวทำไปเพื่อข่มขู่ให้พวกเขาหนีไปเท่านั้น” ซาอีฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว สกาย นิวส์ ของอังกฤษ

“ที่นั่นไม่มีคนอยู่อาศัย เพราะตัวเมืองบรีกาอยู่ห่างออกไปหลายไมล์ ผมกำลังพูดถึงตัวอ่าวและโรงกลั่นน้ำมันที่นั่น”

ซาอิฟ อัล-อิสลาม ระบุว่า ทางการจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้อ่าวบรีกาตกอยู่ในมือกลุ่มผู้ประท้วงได้

“ที่นั่นเป็นศูนย์กลางน้ำมันและก๊าซของลิเบีย เราทุกคนมีกินมีใช้ก็เพราะเมืองบรีกา หากไม่มีเมืองนี้ คนอีก 6 ล้านคนก็หมดอนาคต เพราะเราส่งออกน้ำมันทั้งหมดจากที่นั่น”

“ทหารกบฏพยายามจะแสดงอำนาจโดยเอารถถัง 3 คันกับปืนกลเข้ามา แต่พวกคุณยึดอ่าวไม่ได้หรอก ขอโทษเถอะ!”

“ไม่มีใครยอมให้คนพวกนั้นยึดบรีกาได้ ทำเช่นนั้นก็เหมือนคุณยอมให้คนเข้ามายึดอ่าวร็อตเตอร์ดัมนั่นแหละ” ซาอิฟ กล่าว

บุตรชาย กัดดาฟี เตือนด้วยว่า รัฐบาลจะไม่ยอมให้การประท้วงยืดเยื้อต่อไป

“เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้รับอนุญาตให้จับกุมใครก็ตาม เพื่อให้เกิดสันติภาพและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในบ้านเมือง”

“นี่เป็นช่วงวิกฤต ทุกคนควรระมัดระวังให้มากที่สุด เราไม่มีเวลาจะเอาประเทศชาติไปเสี่ยง และไม่สามารถอดทนกับกลุ่มบุคคลที่ก่อความไม่สงบได้”

ซาอิฟ เผยด้วยว่า ชาวบ้านในเมืองที่ถูกกลุ่มกบฎบุกยึดได้โทรเข้ามาร้องเรียนด้วยความหวาดกลัว
กลุ่มผู้ประท้วงเตรียมปืนต่อสู้อากาศยานที่เมืองอัจดาบิยา ห่างจากเบนกาซีไปทางตะวันตกราว 160 กิโลเมตร วานนี้(3)
“เราได้รับโทรศัพท์ร้องเรียนจากชาวเมืองเบนกาซีวันละเป็นร้อยๆสาย ทุกคนกลัวมากและบอกว่า เราออกจากบ้านไม่ได้, ลูกหลานเราไปโรงเรียนไม่ได้, เราไม่ได้รับเงินเดือน, เราไปธนาคารไม่ได้”

“มีชีวิตอยู่ก็เหมือนตาย เพราะอะไร? ก็เพราะพวกเขากลัวคนหนุ่มที่ตั้งตัวเป็นทหารกบฏ ซึ่งไม่ได้พูดถึงเสรีภาพ หรือประชาธิปไตย หรือการเลือกตั้งใดๆเลย”

ซาอิฟ ยังปกป้องคำพูดของ กัดดาฟี ที่เคยประณามผู้ประท้วงว่าเป็นเหมือน “หนูและแมลงสาบ”

“คนเหล่านี้เข่นฆ่าชาวลิเบีย คุณเห็นภาพที่พวกเขาสังหารตำรวจทีละคนไหม? คุณเห็นพวกเขาจับคนไปแขวนคอไว้บนสะพานหรือเปล่า?” ซาอิฟ ตั้งคำถาม

อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าเวลาแห่งการปฏิรูปได้มาถึงแล้ว

“ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแล้วล่ะครับ เราต้องมีประชาธิปไตย, เสรีภาพ และรัฐธรรมนูญใหม่ ช้าเร็วก็ต้องทำ”

“ทุกคนในลิเบีย(รวมถึงกัดดาฟี)เชื่อว่า ทางเดียวที่ลิเบียจะก้าวต่อไปได้คือการสร้างประชาธิปไตย, เสรีภาพ และรัฐบาลท้องถิ่น แต่ขณะเดียวกันเราก็ยังมีกลุ่มกบฏอยู่ เพราะฉะนั้นจึงกลายเป็น 2 ประเด็น”

ด้านรัฐมนตรีของเวเนซุเอลาแถลงเช้าวานนี้(3) ว่า ลิเบียและสันนิบาตอาหรับควรพิจารณาข้อเสนอของประธานาธิบดี ฮูโก ชาเบซ ที่ให้มีการเจรจา เพื่อทำให้วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางจบลงอย่างสันติ

ทว่า ซาอิฟ กลับปฏิเสธรายงานดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง

“ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย ฟังดูเหมือนจะมาเป็นนายหน้าขายสินค้าในเวบแอมะซอนอย่างนั้นแหละ”

“เราเคารพพวกเขานะครับ พวกเขาเป็นมิตรของเรา แต่เขาก็อยู่ไกลและไม่ทราบเหตุการณ์ที่แท้จริงในลิเบียหรอก เราแก้ปัญหาของเราเองได้”
กำลังโหลดความคิดเห็น