เอเอฟพี - ประธานาธิบดีฮูโก ชาเบซ แห่งเวเนซุเอลา ออกตัวสรรเสริญ “ความเป็นไท” ของลิเบียวานนี้ (24) พร้อมทั้งแสดงทัศนะว่า มูอัมมาร์ กัดดาฟี กำลังเผชิญหน้ากับสงครามกลางเมือง
“ลิเบีย และความเป็นไทแห่งลิเบีย จงเจริญ! กัดดาฟีกำลังเจอสงครามกลางเมือง!” ผู้นำเวเนซุเอลาระบุผ่านทางทวิตเตอร์ นับเป็นการแสดงความเห็นครั้งแรก หลังเหตุความรุนแรงปะทุขึ้นในลิเบียตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์
ฮูโก ชาเบซ เป็นพันธมิตรสำคัญของ พ.อ.กัดดาฟี ในภูมิภาคละตินอเมริกา โดยผู้นำทั้งสองมักออกคำแถลงประณาม “ลัทธิจักรวรรดินิยม” ของสหรัฐฯ อยู่เสมอ และมีการเดินทางเยือนประเทศของกันและกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ความสัมพันธ์ระหว่างชาเบซ กับ กัดดาฟี แน่นแฟ้นมาก จนกระทั่งมีข่าวลือเมื่อวันจันทร์ (21) ว่า เขาหนีออกจากลิเบียไปยังกรุงคาราซัส เมื่อหลวงของเวเนซุเอลาแล้ว ซึ่งมีการออกมาปฏิเสธในเวลาต่อมา
ประธานาธิบดีชาเบซเพิ่งเดินทางเยือนลิเบียเมื่อเดือนตุลาคม 2010 และได้ติดต่อพูดคุยกับ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ตลอดเวลาที่ประชาชนอียิปต์ลุกฮือประท้วง จนนำมาซึ่งการประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของ ฮอสนี มูบารัค เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ หลังจากครองอำนาจมายาวนาน 3 ทศวรรษ ทางการเวเนซุเอลาแถลง
รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา นิโกลัส มาดูโร แถลงต่อสมัชชาแห่งชาติคาราซัส ว่า เวเนซุเอลาไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงในลิเบีย ทว่าสำทับถึงประโยชน์จากการศึกษาเหตุประท้วงดังกล่าว
“ขณะนี้ กำลังมีการสร้างเงื่อนไข เพื่อรุกรานลิเบีย และวัตถุประสงค์หลักของการรุกรานนั้น คือ การยึดเอาน้ำมันของลิเบีย” รัฐมนตรีมาดูโรกล่าว
รัฐบาลชาติตะวันตกได้เรียกร้องมาตรการลงโทษการละเมิดสิทธิในลิเบีย แต่ “ทำไมไม่เรียกร้องมาตรการลงโทษเดียวกันกับ ผู้ที่ทิ้งระเบิดใส่พลเรือนผู้บริสุทธิ์ในอิรัก หรือ อัฟกานิสถานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน” รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลาร้องถาม “บุคคลเหล่านั้นเป็นฆาตกรดีๆ นี่เอง”
ในภูมิภาคละตินอเมริกา มีเพียงประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ของนิการากัวที่แสดงตัวอย่างเปิดเผยว่า สนับสนุน มูอัมมาร์ กัดดาฟี ทว่า พรรคลิเบรัล ปาร์ตี พรรคแกนนำฝ่ายค้านของนิการากัว ได้ออกคำแถลงเมื่อไม่นานมานี้ เรียกร้อง “การตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลทรราชฆ่าล้างเผ่าพันธ์ประชาชนของกัดดาฟี”