เอเอฟพี - ชาวเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่งออกมาประท้วงรัฐบาล หลังเผชิญความอดอยากยากแค้นซ้ำยังถูกตัดไฟ หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้รายงานวันนี้ (23)
หนังสือพิมพ์ โชซุน อิลโบ อ้างแหล่งข่าวชาวเกาหลีเหนือซึ่งเล่าว่า กลุ่มผู้ประท้วงต่างพากันร้องตะโกนว่า “เราอยู่ไม่ได้แล้ว! เอาไฟฟ้ามาให้เรา! เอาข้าวมาให้เรา!”
การประท้วงเกิดขึ้นที่เมืองจองจู, ยองชอน และ ซอนชอน ในจังหวัดพยองันทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ก่อนหน้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดผู้นำ คิม จอง อิล เพียง 2 วัน
“ตอนแรกก็มีคนมาแค่คนสองคน แต่เมื่อผ่านไปนานเข้า ก็มีคนออกจากบ้านมาร่วมตะโกนประท้วงกันเยอะขึ้น” แหล่งข่าวเผย
การชุมนุมประท้วงในเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นรัฐคอมมิวนิสต์แทบไม่เคยเกิดขึ้น แม้จะเคยมีกระแสข่าวว่า การปรับค่าเงินในปี 2009 ได้สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนเป็นอย่างมากก็ตาม
กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐเกาหลีเหนือ ได้เข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ แต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากความเงียบงัน โชซุน อิลโบ รายงาน
ผู้ประท้วงเกาหลีเหนือต่างโกรธแค้นที่รัฐบาลดึงกระแสไฟฟ้าที่ไม่สม่ำเสมออยู่แล้วจากเมืองจองจูและยองชอนเข้าไปยังกรุงเปียงยาง เพื่อเปิดฉลองวันเกิดให้ผู้นำ คิม
ราคาข้าวในเกาหลีเหนือก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชนต้องเผชิญความอดอยากมาตั้งแต่เกิดภัยแล้งในทศวรรษที่ 1990
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า โอกาสที่จะชาวเกาหลีเหนือจะลุกฮือขึ้นต่อต้านระบอบการปกครองดังเช่นที่เกิดในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ยังเป็นไปได้น้อย
กรุงเปียงยางควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด ทั้งยังปิดกั้นไม่ให้ประชาชนรับข้อมูลข่าวสารจากโลกภายนอกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจโดยนักวิจัยสหรัฐฯซึ่งสอบถามผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือ 1,600 คน พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งสามารถเข้าถึงข่าวต่างประเทศรวมถึงสื่อบันเทิงต่างๆ ได้ ซึ่งนับเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากทศวรรษที่ 1990
กระนั้นก็ดี ผู้ลี้ภัย ระบุว่า เกาหลีเหนือยังขาดแคลนแรงงาน, องค์กรศาสนา หรือกลุ่มมวลชนอื่นๆ ที่อาจรวมตัวกันเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
“ผมไม่เห็นอะไรในประชาสังคมที่จะนำไปสู่ปรากฎการณ์ทางการเมืองอย่างในอียิปต์ได้เลย” สตีเฟน แฮกการ์ด นักวิจัยสหรัฐฯ กล่าวระหว่างรายงานผลการศึกษาที่กรุงวอชิงตัน เดือนที่แล้ว