เอเอฟพี - มาเลเซียจับกุมหนุ่มสาวมุสลิมที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมในวันวาเลนไทน์ได้เกือบ 100 คน หลังจากที่ออกคำเตือนไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า เทศกาลดังกล่าวสนับสนุน “การกระทำชั่ว” เจ้าหน้าที่เผยวันนี้(15)
จากการตรวจค้นสถานที่ต่างๆในรัฐสลังงอร์ พบหนุ่มสาว 96 คนที่กระทำผิดฐานคาลวัต (khalwat) ซึ่งเป็นข้อห้ามในศาสนาอิสลามที่ไม่อนุญาตให้บุคคลอยู่ร่วมกับเพศตรงข้ามซึ่งไม่ใช่สามีภรรยาสองต่อสอง
สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานศาสนาในมาเลเซียได้ประกาศเตือนถึง “พฤติกรรมอันผิดศีลธรรม” ในวันวาเลนไทน์ และระบุว่า ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนใช้ชีวิตที่ห่างไกลจากบาป
โฆษกกรมกิจการศาสนาอิสลามแห่งดินแดนสหพันธรัฐ ระบุว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานศาสนาได้บุกเข้าตรวจค้นโรงแรมราคาถูก และสวนสาธารณะต่างๆในกรุงกัวลาลัมเปอร์ก่อนถึงวันวาเลนไทน์ และจับกุมมุสลิมผู้กระทำผิดได้ 16 คนซึ่งส่วนมากอยู่ในวัยหนุ่มสาว
“ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นหนึ่งในการตรวจจับที่ทำอยู่เป็นประจำ เพื่อหยุดยั้ง คาลวัต” อัสมาวี อุมาร์ กล่าว พร้อมเล่าว่า วัยรุ่นจะจ่ายค่าห้องในโรงแรมประมาณ 50 ริงกิต (500 บาท) ต่อ 2 ชั่วโมง
สื่อมาเลเซียรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐสลังงอร์สามารถจับกุมหนุ่มสาวมุสลิมได้ประมาณ 80 คน ระหว่างเวลาเที่ยงคืนถึง 6.00 น.ของวันวาเลนไทน์
ตามกระบวนการยุติธรรมของมาเลเซียที่ใช้ทั้งกฎหมายอิสลามและกฎหมายบ้านเมืองควบคู่กัน ศาลชารีอะห์สามารถตัดสินลงโทษมุสลิมที่ฝ่าฝืนหลักการศาสนาได้
มาเลเซียมีประชากรราว 28 ล้านคน โดย 60 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวมุสลิม
สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานศาสนาของมาเลเซียตั้งโครงการรณรงค์ที่ชื่อว่า “จิตใจและหลุมพรางแห่งวันวาเลนไทน์” เพื่อประณามการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรัก และประกาศว่าพวกเขาต่อต้านทุกสิ่งที่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม
“การฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ คือ กิจกรรมอันชั่วร้าย ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และความเป็นจริง” วัน มูฮัมหมัด ชัยค์ อับดุลอาซิส หัวหน้ากรมพัฒนาด้านศาสนาอิสลามแห่งมาเลเซีย (JAKIM) ซึ่งดูแลนโยบายด้านศาสนา ให้สัมภาษณ์กับสื่อของรัฐบาล เมื่อวันอาทิตย์(13)
อย่างไรก็ตาม นักสิทธิมนุษยชนเตือนว่า การกวาดล้างผู้ทำผิดหลักศาสนาเช่นนี้ จะทำให้ภาพความเป็นชาติมุสลิมสายกลางของมาเลเซียต้องมัวหมองไป