เอเอฟพี - ขณะที่คู่รักจำนวนมากทั่วโลกกำลังตั้งตารอการมาของวันวาเลนไทน์ปีนี้ เจ้าหน้าที่มาเลเซียก็ออกมาเตือนชาวมุสลิมไม่ให้ร่วมเฉลิมฉลองวันซึ่งพวกเขาเรียกว่า “วันแห่งการทำชั่ว”
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้น หลังจากสัปดาห์ที่แล้วหลายรัฐในมาเลเซียประกาศจะกวาดล้างหนุ่มสาวที่ทำผิดจารีตประเพณีในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ให้วัยรุ่นมุสลิมใช้ชีวิตในกรอบศีลธรรม
“การฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ คือ กิจกรรมอันชั่วร้าย ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และความเป็นจริง” วัน มูฮัมหมัด ชัยค์ อับดุลอาซิส หัวหน้ากรมพัฒนาด้านศาสนาอิสลามแห่งมาเลเซีย (JAKIM) ซึ่งดูแลนโยบายด้านศาสนา ให้สัมภาษณ์กับสื่อของรัฐบาล
“อิสลามปฏิเสธทุกสิ่งที่ขัดกับหลักศาสนา แม้จะมีที่มาจากวัฒนธรรมตะวันออกก็ตาม” เขากล่าว
วัน มูฮัมหมัด ระบุว่า ผู้นำศาสนาอิสลามในมาเลเซียเคยมีคำตัดสินเมื่อ 6 ปีก่อน ว่า “วันวาเลนไทน์เกี่ยวข้องกับความเชื่อในคริสตศาสนา” และ “เรามุสลิมไม่สามารถมีส่วนร่วมในพิธีกรรมของศาสนาอื่นได้”
เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาด้านศาสนาอิสลามจะจัดโครงการ ชื่อว่า “จิตใจและหลุมพรางแห่งวันวาเลนไทน์” ขึ้นทั่วประเทศ เพื่อเตือนไม่ให้มุสลิมร่วมฉลองเทศกาลดังกล่าว วัน มูฮัมหมัด เผย
นาสรุดดิน ฮาซัน ตันตาวี หัวหน้าฝ่ายเยาวชนของพรรคปาส กล่าวเมื่อวันพุธ (9)ว่า เจ้าหน้าที่รัฐเกดะห์, ปีนัง, กลันตัน และ สลังงอร์ จะทำการตรวจจับ “พฤติกรรมผิดศีลธรรม” ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้
ปาส เป็นหนึ่งในพันธมิตรฝ่ายค้านที่ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งในปี 2008 และสามารถควบคุมการบริหารใน 4 รัฐข้างต้น แนวทางอนุรักษ์นิยมของ ปาส ทำให้เกิดข้อขัดแย้งกับพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ รวมถึงพรรคเดโมแครติก แอคชัน ปาร์ตี ซึ่งมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวจีน
“เราจะเข้าไปตรวจตามจุดต่างๆ ที่คู่รักหนุ่มสาวมักจะไป โดยใช้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานศาสนาในท้องถิ่น รวมถึงสมาชิกพรรค เพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมที่เป็นบาป เช่น การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่จริงจัง ซึ่งขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม” นาสรุดดิน ให้สัมภาษณ์
ด้านผู้นำศาสนาคริสต์ ระบุว่า วันวาเลนไทน์ซึ่งมาจากชื่อของนักบุญวาเลนไทน์ ไม่มีความสำคัญมากนัก และถูกถอดออกจากปฏิทินวันนักบุญตั้งแต่ปี 1969 มาแล้ว พร้อมอธิบายด้วยว่า วันดังกล่าวเป็นเพียงวันที่ผู้คนนิยมบอกรัก และส่งดอกไม้, ช็อกโกแลต หรือบัตรอวยพรถึงกันเท่านั้น