เอเอฟพี - สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ออกโรงขู่ตัดงบช่วยเหลือปากีสถาน วานนี้ (8) หากไม่ยอมปล่อยตัวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งถูกจับกุม ฐานยิงชาวปากีสถานเสียชีวิต 2 ราย ขณะเดียวกันก็มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านสหรัฐฯ
ทางการสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาจไม่ราบรื่น หากปากีสถานไม่ยอมปล่อยตัว เรย์มอนด์ เดวิส ลูกจ้างรัฐบาลวอชิงตัน ซึ่งก่อเหตุยิงชายปากีสถาน 2 รายเสียชีวิตในจังหวัดลาฮอร์เมื่อเดือนที่แล้ว โดยแก้ต่างว่า เป็นการป้องกันตัว
ส.ส.อเมริกัน 3 คน ได้เดินทางกลับจากปากีสถาน หลังแจ้งกับนายกรัฐมนตรี ยูซุฟ ราซา กีลานี ด้วยท่าทีแข็งกร้าว ว่า สภาคองเกรสกำลังพิจารณางบช่วยเหลือปากีสถาน และกำลังมองไปถึงการตัดงบประมาณดังกล่าว
“สภาคองเกรสมีคำสั่งให้ปากีสถานยอมปล่อยตัว เรย์มอนด์ เดวิส และเป็นไปได้สูงที่จะตัดงบช่วยเหลือ ถ้ายังไม่มีการปล่อยตัวเขา” จอห์น ไคลน์ ส.ส.รีพับลิกันจากรัฐมินนิโซตา ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว “ผมคาดว่า จะมีเสียงสนับสนุนในสภาจำนวนมาก ให้ตัดงบปากีสถาน เพราะต่างโกรธแค้นการควบคุมตัวคนอเมริกัน ภายใต้ความคุ้มครองทางการทูต”
ทั้งนี้ เรย์มอนด์ เดวิส ถูกเจ้าหน้าที่ปากีสถานจับกุมตัวเมื่อวันที่ 27 มกราคม หลังยิงชาวลาฮอร์ 2 คนเสียชีวิต เนื่องจากเกรงว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองจะปล้นเขา ส่วนชายปากีสถานรายที่สามพยายามวิ่งหนี แต่ถูกรถของสถานกงสุลสหรัฐฯ ซึ่งส่งมาช่วยเดวิส ชนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดลาฮอร์ ระบุ
เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการประท้วงขึ้นในปากีสถาน ซึ่งมีการรณรงค์ต่อต้านสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน และ ชูไมลา ฟาเฮม ภรรยาของหนึ่งในผู้ถูกยิงเสียชีวิตก็กินยาพิษฆ่าตัวตาย เมื่อวันอาทิตย์ที่ (5) ผ่านมา
นักสังเกตการณ์พากันตั้งคำถามถึงกรณีดังกล่าว ว่า เรย์มอนด์ เดวิส ใช่นักการทูตทั่วไปหรือไม่ โดยตำรวจปากีสถานให้ข้อมูลว่า เขาไปไหนมาไหนโดยพกอาวุธติดตัวตลอดเวลา พร้อมทั้งอุปกรณ์นำทางจีพีเอส
รัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ประกาศต่อสู้กับ “ลัทธิต่อต้านสหรัฐฯ” และสั่งการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงในปากีสถานเป็นเรื่องเร่งด่วน
อนึ่ง เมื่อปี 2009 สภาคองเกรสได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือ กรอบระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 230,000 ล้านบาท) ให้ปากีสถานนำไปใช้สร้างโรงเรียน สาธารณูปโภคพื้นฐาน และสถาบันประชาธิปไตย หลังสิ้นสุดการปกครองอันยาวนานของยุคทหารครองเมือง ต่อมาในเดือนตุลาคม 2010 รัฐบาลโอบามาได้เสนอให้อนุมัติเงินช่วยเหลือด้านการทหารแก่ปากีสถานเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 61,000 บาท)